เรอัล มาดริดเตรียมพบกับบาเยิร์นอีกครั้งตี 2 ! 1-0 = เข้าชิงยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก + เงินรางวัล 15.5 ล้านยูโร มุ่งสู่แชมป์สมัยที่ 15!
หลังจากจบการแข่งขันลีกในประเทศเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา บาเยิร์นและเรอัล มาดริด ต่างเข้าสู่ช่วงเตรียมพร้อมสำหรับนัดที่สองของรอบรองชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก โดยนัดแรกที่สนามอัลลิอันซ์ อารีน่า ทั้งสองทีมเสมอกัน 2-2 นัดที่สองจะตัดสินกันที่สนามซานติอาโก เบร์นาเบว ทีมไหนก็ตามที่ชนะจะได้เข้าชิงชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก และเข้าใกล้แชมป์มากขึ้นอีกก้าว การแข่งขันนัดนี้จะเริ่มขึ้นในวันที่ 9 พฤษภาคม เวลา 02:00 น.
สถิติบ่งบอกว่า เรอัล มาดริดเข้ารอบรองชนะเลิศเป็นครั้งที่ 17 นับตั้งแต่ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกเปลี่ยนรูปแบบการแข่งขัน ส่วนบาเยิร์นเข้ารอบรองชนะเลิศเป็นครั้งที่ 13 รั้งอันดับสองของประวัติศาสตร์ จึงไม่แปลกที่การแข่งขันนัดนี้จะถูกขนานนามว่า "ดาร์บี้แห่งยุโรป"
ตลอดประวัติศาสตร์ ทั้งสองทีมเคยพบกัน 26 ครั้ง เป็นคู่แข่งที่พบกันมากที่สุดในประวัติศาสตร์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 20 ครั้งในรอบน็อคเอาท์ และนี่เป็นการพบกันในรอบรองชนะเลิศเป็นครั้งที่ 8 ซึ่งถือเป็นสถิติที่ไม่มีใครเทียบได้ การพบกันครั้งล่าสุดต้องย้อนกลับไปในฤดูกาล 2017-18 ผู้เล่นทั้งสองทีมต่างเปลี่ยนแปลงไปมาก จึงถือว่ายังไม่คุ้นเคยกัน
นัดแรกที่สนามอัลลิอันซ์ อารีน่า เรอัล มาดริดบุกไปเสมอกับบาเยิร์น 2-2 กองหลังชาวเกาหลีใต้ คิม มินแจ ถูกแฟนบอลมองว่าเป็นตัวแฝงของบาเยิร์น ทั้งสองประตูที่เรอัล มาดริด เสียล้วนเกี่ยวข้องกับเขา โดยเฉพาะลูกจุดโทษในครึ่งหลังที่ทำให้บาเยิร์นหมดสิทธิ์ทำลายสถิติไร้พ่าย 8 นัดติดต่อกันเมื่อเจอเรอัล มาดริด
สถิติระบุว่า บาเยิร์น เอาชนะเรอัล มาดริด ได้ครั้งล่าสุดเมื่อปี 2012 นานมาแล้วถึง 12 ปี ด้วยผลงานที่ไม่ดีต่อเนื่อง ทำให้สถิติการเจอกันของบาเยิร์นกับเรอัล มาดริด ตีคู่กันที่ 12 ชนะ 4 เสมอ 11 แพ้
หนึ่งสัปดาห์ต่อมา ทั้งสองทีมกลับมาเจอกันอีกครั้งในนัดที่สอง โดยเรอัล มาดริด เล่นในบ้านรับมือบาเยิร์น สถิติระบุว่า เรอัล มาดริด ไม่แพ้ใครใน 29 เกมติดต่อกันในทุกรายการ เป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญ แม้แต่ทีมระดับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็ไม่สามารถคว้าชัยชนะจากสนามซานติอาโก เบร์นาเบวได้
**เรอัล มาดริดขึ้นชื่อเรื่องความเก๋าในรอบน็อคเอาท์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ประกอบกับความได้เปรียบในบ้าน ทำให้พวกเขามีโอกาสสูงที่จะเข้ารอบ ขอเพียงชนะบาเยิร์น 1-0 ก็เพียงพอแล้ว เรอัล มาดริด จะกลับไปเล่นในรอบชิงชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกอีกครั้ง พร้อมคว้าเงินรางวัล 15.5 ล้านยูโร หากคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ทีมผู้ชนะจะได้รับรางวัลเพิ่มเติมอีก 450 ล้านยูโร และการันตีสิทธิ์เข้าแข่งขันยูฟ่าซูเปอร์คัพ ในฤดูกาลถัดไป โดยจะได้รับเงินรางวัลอีก 350 ล้านยูโร
สำหรับฤดูกาลนี้ เรอัล มาดริดมุ่งมั่นคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกสมัยที่ 15 ในขณะที่ บาเยิร์น มุ่งมั่นคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกสมัยที่ 7
สถิติบ่งบอกว่า เรอัล มาดริดเข้ารอบรองชนะเลิศเป็นครั้งที่ 17 นับตั้งแต่ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกเปลี่ยนรูปแบบการแข่งขัน ส่วนบาเยิร์นเข้ารอบรองชนะเลิศเป็นครั้งที่ 13 รั้งอันดับสองของประวัติศาสตร์ จึงไม่แปลกที่การแข่งขันนัดนี้จะถูกขนานนามว่า "ดาร์บี้แห่งยุโรป"
ตลอดประวัติศาสตร์ ทั้งสองทีมเคยพบกัน 26 ครั้ง เป็นคู่แข่งที่พบกันมากที่สุดในประวัติศาสตร์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 20 ครั้งในรอบน็อคเอาท์ และนี่เป็นการพบกันในรอบรองชนะเลิศเป็นครั้งที่ 8 ซึ่งถือเป็นสถิติที่ไม่มีใครเทียบได้ การพบกันครั้งล่าสุดต้องย้อนกลับไปในฤดูกาล 2017-18 ผู้เล่นทั้งสองทีมต่างเปลี่ยนแปลงไปมาก จึงถือว่ายังไม่คุ้นเคยกัน
นัดแรกที่สนามอัลลิอันซ์ อารีน่า เรอัล มาดริดบุกไปเสมอกับบาเยิร์น 2-2 กองหลังชาวเกาหลีใต้ คิม มินแจ ถูกแฟนบอลมองว่าเป็นตัวแฝงของบาเยิร์น ทั้งสองประตูที่เรอัล มาดริด เสียล้วนเกี่ยวข้องกับเขา โดยเฉพาะลูกจุดโทษในครึ่งหลังที่ทำให้บาเยิร์นหมดสิทธิ์ทำลายสถิติไร้พ่าย 8 นัดติดต่อกันเมื่อเจอเรอัล มาดริด
สถิติระบุว่า บาเยิร์น เอาชนะเรอัล มาดริด ได้ครั้งล่าสุดเมื่อปี 2012 นานมาแล้วถึง 12 ปี ด้วยผลงานที่ไม่ดีต่อเนื่อง ทำให้สถิติการเจอกันของบาเยิร์นกับเรอัล มาดริด ตีคู่กันที่ 12 ชนะ 4 เสมอ 11 แพ้
หนึ่งสัปดาห์ต่อมา ทั้งสองทีมกลับมาเจอกันอีกครั้งในนัดที่สอง โดยเรอัล มาดริด เล่นในบ้านรับมือบาเยิร์น สถิติระบุว่า เรอัล มาดริด ไม่แพ้ใครใน 29 เกมติดต่อกันในทุกรายการ เป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญ แม้แต่ทีมระดับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็ไม่สามารถคว้าชัยชนะจากสนามซานติอาโก เบร์นาเบวได้
**เรอัล มาดริดขึ้นชื่อเรื่องความเก๋าในรอบน็อคเอาท์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ประกอบกับความได้เปรียบในบ้าน ทำให้พวกเขามีโอกาสสูงที่จะเข้ารอบ ขอเพียงชนะบาเยิร์น 1-0 ก็เพียงพอแล้ว เรอัล มาดริด จะกลับไปเล่นในรอบชิงชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกอีกครั้ง พร้อมคว้าเงินรางวัล 15.5 ล้านยูโร หากคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ทีมผู้ชนะจะได้รับรางวัลเพิ่มเติมอีก 450 ล้านยูโร และการันตีสิทธิ์เข้าแข่งขันยูฟ่าซูเปอร์คัพ ในฤดูกาลถัดไป โดยจะได้รับเงินรางวัลอีก 350 ล้านยูโร
สำหรับฤดูกาลนี้ เรอัล มาดริดมุ่งมั่นคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกสมัยที่ 15 ในขณะที่ บาเยิร์น มุ่งมั่นคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกสมัยที่ 7
จาก:ข่าวฮอต
TAG
เรอัล มาดริด
โพสต์ฮอต
-
บาร์เซโลน่าให้ความสนใจในตัวราชม์ฟอร์ด และเขาก็พิจารณาอย่างจริงจังที่จะย้ายออกจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
-
ไวกิงเกอร์ เรยาวิคเจอดวลยาก! คาดเกมเดือดชิงจ่าฝูงยูฟ่ายูโรปาคอนเฟอเรนซ์ลีก
-
แพ้ 1-4 ไม่ใช่หรอ? กวาร์ดิโอล่า : ในเกมกับแมนยู ผมหวังว่าจะทำผลงานได้เหมือนพบกับสปอร์ติ้ง ซีพี
-
ผลบอล ยูเวนตุส พบ แมนซิตี้: เรืออาการหนักโดนม้าดีดจมคาสนาม
-
พรีวิวก่อนเกม ลิเวอร์พูล VS ฟูแล่ม
-
พรีวิวก่อนเกม โอลิมปิก ลียง VS ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต