ส่อหมดอนาคต

กลายเป็นข่าวใหญ่ในช่วงจบฤดูกาลเลยทีเดียวสำหรับลูกัส ปาเกตา กองกลางทีมชาติบราซิลของ “ขุนค้อน” เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ทีมดังในศึกพรีเมียร์ลีก หลังจากเจ้าตัวโดนสมาคมฟุตบอลอังกฤษ หรือเอฟเอ ตั้งข้อหามีส่วนพัวพันกับการเล่นพนันฟุตบอล

สำหรับข้อหาที่ปาเกตา ได้รับนั้นก็คือการเจตนาทำให้ตัวเองโดนลงโทษจากผู้ตัดสิน หรือพูดง่ายๆ ก็คือการเจตนาทำตัวเองให้โดนใบเหลือง ซึ่ง “เอฟเอ” รายงานว่ากองกลางวัย 26 ปี เข้าข่ายจงใจการกระทำดังกล่าวเพื่อผลประโยชน์ทางด้านการพนันถึง 4 เกมด้วยกัน

ซึ่งก่อนหน้านี้ ปาเกตาก็โดนตั้งข้อสงสัยว่าตั้งใจทำให้ตัวเองโดนใบเหลืองไปก่อนหน้านี้ถึง 3 ครั้ง ประกอบด้วยเกมกับเลสเตอร์ เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน ปี 2022 โดยในเกมดังกล่าวเจ้าตัวรับใบเหลืองในนาทีที่ 60 ข้อหาเสียบใส่บูบาการี ซูมาเร, นัดเจอ แอสตัน วิลลา เมื่อวันที่ 12 มีนาคม ปี 2023 นาทีที่ 70 ซึ่งปาเกตาปะทะจอห์น แม็กกินน์ และเกมเจอ “ยูงทอง” ลีดส์ ยูไนเต็ด เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม ปี 2023 ข้อหาดึงคริเซนซิโอ ซัมเมอร์วิลล์ โดยทั้ง 3 ครั้งมันส่งกลิ่นให้ “เอฟเอ” ได้เริ่มต้นทำการสอบสวนปาเกตา ไปบ้างแล้ว

แต่แทนที่ปาเกตาจะหยุดหลังจากโดนสอบไปบ้างแล้ว แต่เจ้าตัวก็ยังทำตัวให้สงสัยอีกในเกมต้นซีซันนี้ที่พบกับบอร์นมัธ หลังจากเจ้าตัวเจตนาทำแฮนด์บอลในช่วงนาทีที่ 93 ก่อนที่เกมจะจบลงด้วยการเสมอกัน 1-1 จนทำให้ทางองค์กรลูกหนังอังกฤษก็ได้เพิ่มเข้าไปอีก 1 ข้อหา

ซึ่งหลังจากที่ เอฟเอ ใช้เวลาทั้งหมด 9 เดือนในการรวบรวมหลักฐานจนมั่นใจว่า ปาเกตาได้ทำผิดจริงก่อนสุดท้ายจะออกมาตั้งข้อหาแข้งวัย 26 ปี ตามที่ตกเป็นข่าวออกมาในท้ายที่สุด

จากคดีดังกล่าวของปาเกตา ทำให้ “เดลี เมล” สื่อชื่อดังเมืองผู้ดีก็ได้ระบุว่าทางกองกลางทีมชาติบราซิลอาจจะโดนแบนยาวถึง 10 ปี จากการกระทำดังกล่าวหากถูกตัดสินว่าทำผิดจริง

โดยสื่อดังกล่าวได้นำคดีเก่ามาเปรียบเทียบกับคดีของคีแนน ไอแซก อดีตกองหลังทีมเรดดิ้ง ได้รับโทษดังกล่าวเมื่อเดือน ต.ค.2022 จากความผิดช่วงที่เล่นให้ทีมนอกลีก สแตมฟอร์ด ทาวน์ ฟาดแข้งกับชรูว์สบิวรี ในเกมเอฟเอคัพ รอบแรกเมื่อสามปีก่อน (7 พ.ย.2021) ซึ่งแม้นักเตะจะปฏิเสธข้อกล่าวหา แต่เอฟเอ ยืนยันลงดาบเขากรณีมีเจตนาคว้าใบเหลืองจากการเข้าปะทะสูงในนาทีที่ 83 เพื่อให้เพื่อนวางเดิมพัน

นอกจากนี้ ไอแซก ยังได้รับโทษแบนเพิ่มอีก 18 เดือนด้วย เนื่องจาก เอฟเอ ระบุว่าเขาวางเดิมพันเช่นกันในระหว่างลงเล่นให้หลายสโมสรตั้งแต่วันที่ 14 ส.ค.2016 ถึง 6 พ.ย.2021 รวมทั้งสิ้น 350 ครั้งในเวลาห้าปี และไม่ยินยอมให้มีการตรวจข้อมูลการโทรศัพท์ซึ่งพฤติกรรมของเขาเข้าข่ายทุจริตโดยตัวนักเตะจะพ้นโทษแบนในเดือน เม.ย.2034

เรียกได้ว่าการถูกตั้งข้อหาของ ปาเกตา ในครั้งนี้ไม่ส่งผลดีต่อเจ้าตัวแน่นอน เพราะถือว่ามิดฟิลด์วัย 26 ปี เป็นหนึ่งในแข้งที่ทำผลงานได้ดี

ในฤดูกาลที่ผ่านมา จนก้าวมามีชื่อติดทีมชาติบราซิลไปลุยศึกโคปา อเมริกา 2024 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นเจ้าภาพในช่วงระหว่างวันที่ 20 มิ.ย.-14 ก.ค.นี้

เท่านั้นยังไม่พอ ปาเกตาก็ตกเป็นข่าวว่าเป็นเป้าหมายของ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์พรีเมียร์ลีก 4 สมัยติดต่อกัน ที่สนใจพร้อมควักเงินจำนวน 80 ล้านปอนด์ (ประมาณ 3,680 ล้านบาท) เพื่อดึงตัวมาร่วมงานในถิ่นเอติฮัด สเตเดียม ในฤดูกาลหน้า

แต่หลังจากมีข่าวฉาวระดับนี้และมีการเสี่ยงโดนแบนยาวถึง 10 ปีเชื่อว่า “เรือใบสีฟ้า” ก็คงจะล้มแผนแน่นอนคงไม่กล้าเสี่ยงทุ่มเงินซื้อนักเตะมาแล้วใช้งานไม่ได้

เพราะเท่าที่ผ่านมาใครที่โดน “เอฟเอ” ตั้งข้อหาแล้วไม่มีใครรอดสักราย!!

โพสต์จาก thairathsport