เต็งแชมป์ยูโร 2024

เหลืออีกไม่กี่อึดใจเท่านั้นศึกลูกหนังชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปปี 2024 หรือยูโร 2024 ที่ประเทศเยอรมนี รับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพจะลงทำการฟาดแข้งระหว่างวันที่ 14 มิถุนายน จนถึง 14 กรกฎาคม ลากยาว 1 เดือนเต็ม

เมื่อมีทัวร์นาเมนต์ใหญ่เกิดขึ้นหลายฝ่ายก็ต่างพูดเรื่องแชมป์กันว่าใครจะเป็นทีมที่เหมาะสมจะคว้าถ้วย “อองรี เดอโลเนย์ โทรฟี่” ไปครอบครอง

บอกได้เลยว่ามี 2 ทีมที่คู่คี่สูสีกันมาก ก็คือ “สิงโตคำราม” อังกฤษ รองแชมป์ปี 2020 กับ “ตราไก่” ฝรั่งเศส รองแชมป์โลกปี 2022 ที่ทั้งคู่นั้นมีขุมกำลังที่เพียบพร้อมกับการก้าวไปถึงตำแหน่งแชมป์

แต่ถ้าถามจริงๆ “มะระหวาน” ดูแล้วทีมที่มีโอกาสมากกว่าเพียงแค่นิดเดียวก็คือ ทัพ “เลอ เบลอส์” ที่ขุมกำลังนั้นดูค่อนข้างครบเครื่องมากกว่า ทั้งเกมรุกและเกมรับ ไล่มาจากแนวรับไม่ว่าจะเป็นเบนจามิน ปาวาร์, วิลเลียม ซาลิบา, อิบรา ฮิมา โกนาเต แม้ว่าแต่ละคนจะอายุไม่มาก แต่มีความเก๋าและมีเกมระดับสูงอยู่ตลอดเวลา

แดนกลางชุดนี้ของดิดิเยร์ เดส์ชองส์ ก็แน่นปึ้ก ทั้งเอดูอาร์โด คามาวิงกา, ออเรเลียง ชูอาเมนี, อุสมาน เดมเบเล หรืออาเดรียง ราบิโอต์ แต่ไฮไลต์สำคัญก็คือ เอ็นโกโล ก็องเต ที่กลับมาติดทีมชุดนี้ด้วย บอกได้เลยว่าอดีตแข้งเชลซีนี่แหละจะเป็นโจ๊กเกอร์พา “ตราไก่” ไปถึงฝั่งฝัน

ส่วนแนวรุกไม่ต้องพูดถึง เป็นชุดเดียวกับบอลโลก 2022 ทั้งกระบิ ไม่ว่าจะเป็นคีเลียน เอ็มบัปเป กัปตันทีม, อองตวน กรีซมันน์, โอลิ วิเยร์ ชิรูด์, มาร์คุส ตูราม, ร็องดาล โคโล มูอานี ทั้งหมดนี้

สร้างความสั่นสะเทือนมาเมื่อ 2 ปีที่แล้วและเชื่อว่าครั้งนี้ก็น่าจะสร้างปัญหาให้กับแนวรับทีมอื่นๆได้เหมือนเดิม

ขณะที่ทีมชาติอังกฤษ “มะระหวาน” ยก ให้เป็นเต็ง 2 เรื่องขุมกำลังไม่ค่อยจะห่วงเท่าไร เรียกว่าสู้กับทางฝรั่งเศสได้อย่างสูสี ตัวเทพอยู่กันครบ ทั้งแฮร์รี เคน กัปตันทีม, จู๊ด เบลลิงแฮม, บูกาโย ซากา, ฟิล โฟเดน, โคล พาลเมอร์, เดแคลน ไรซ์ แต่ปัญหาหลักของ “สิงโตคำราม” ชุดนี้ก็คือ “แนวรับ”

การที่ “ทรีไลออนส์” ไม่มีแฮร์รี แมคไกวร์ อยู่ในทีมนั้น บอกเลยว่าเสียหายหนักมาก แม้ว่าเจ้าตัวจะถูกค่อนขอดว่าเป็นตัวแจกคอนเทนต์ที่ทำผิดพลาดโง่ๆให้กับแมนฯ ยูไนเต็ด แต่ยามเล่นให้กับทีมชาติอังกฤษ แมคไกวร์มักจะทำให้ตัวเองกลายเป็นปราการหลังที่แกร่งดุจหินผาได้ตลอด

จะมีแค่จอห์น สโตนส์ ที่น่าจะทนแรงกระแทกได้ ส่วนที่เหลือทั้งมาร์ค เกฮี, ลูวิส ดังก์, โจ โกเมซ, เอซริ คอนซา รับไม่ไหวแน่ ดีไม่ดีอาจจะเห็นไคล์ วอล์คเกอร์ หุบจากแบ็กขวามายืนเซ็นเตอร์ฮาล์ฟแน่ๆ

ส่วนทีมอื่นๆที่พอจะมีลุ้นด้วยเช่นกันก็คือ “อินทรีเหล็ก” เยอรมนี แม้ว่าขุมกำลังจะค่อนข้างโอเค

แต่โดยรวมทั้งแท็กติกและประสบการณ์นักเตะก็ยังต้องลุ้นเหนื่อย แต่มีเสียงเชียร์หนุน หลังอาจจะมีฮึดก็เป็นได้ ส่วน “ฝอยทอง” โปรตุเกส ก็บอกเลยว่ามีลุ้นเช่นกัน เพราะเต็มไปด้วย

แข้งชั้นดีอย่างคริสเตียโน โรนัลโด, แบร์นาร์โด ซิลวา, บรูโน แฟร์นันเดส, ชูเอา เฟลิกซ์, รูเบน ดิอาส ทำให้มีลุ้นเช่นกัน

ม้ามืดในปีนี้ยกให้ “กระทิง” สเปน ที่เต็มไปด้วยเด็กดาวรุ่งพุ่งแรงอายุน้อย แต่ก็ยังมีรุ่นเก๋าคอยประคองอยู่เยอะพอสมควร ขณะที่พวกมากประสบการณ์ในระดับทัวร์นาเมนต์ใหญ่ก็เยอะ เมื่อทั้งหมดเอามาเขย่ากันแล้วก็กลมกล่อมลงตัวไม่แพ้ใครๆ

แต่สุดท้ายใครจะเป็นแชมป์นั้นมิอาจจะบอกได้จริงๆ ตามวลีคลาสสิก “ลูกบอลกลมๆ มีลมอยู่ข้างใน อะไรก็เกิดขึ้นได้”.

โพสต์จาก thairathsport