Mobile
APP
 
 

แชร์
ฟีดแบค
Thscore> ข่าวฟุตบอล> ข่าวฮอต> ยูโร 2024,Euro 2024,บอลยูโร

ตราไก่ฟัดกังหัน ปะทะแข้งสตาร์ดัง อีก 2 คู่แพ้ไม่ได้ ยูเครน-สโลวัก ออสเตรีย-โปล

ตราไก่ฟัดกังหัน ปะทะแข้งสตาร์ดัง อีก 2 คู่แพ้ไม่ได้ ยูเครน-สโลวัก ออสเตรีย-โปล
ศึกลูกหนัง “ยูโร 2024” วันนี้ (21 มิ.ย.) เป็นเกมรอบแรกนัดสอง ไฮไลต์อยู่กลุ่มดี “กังหันลมสีส้ม” เนเธอร์แลนด์ จ่าฝูงจะดวลเดือดกับ “ตราไก่” ฝรั่งเศส รองจ่าฝูง ใครเก็บชัยชนะในเกมนี้ก็จะตีตั๋วเข้าสู่รอบ 16 ทีมทันที นัดนี้ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ กุนซือ “เลอ เบลอส์” ได้รับข่าวดีเมื่อคีเลียน เอ็มบัปเป กองหน้ากัปตันทีมที่ดั้งจมูกหัก กลับมาลงซ้อมได้แล้ว น่าจะสวมหน้ากากป้องกันลงมาผนึกกำลังอุสมาน เดมเบเล มาร์คัส ตูราม ลงล่าตาข่าย ขณะที่โรนัลด์ คูมัน เฮดโค้ชชาวดัตช์จัดเต็มวางซาบี ซิมมอนส์ โคดี กักโป เมมฟิส เดปาย เป็นตัวทีเด็ด คู่นี้เวลา 02.00 น.  ขณะที่อีกคู่กลุ่มเดียวกัน “อินทรีขาว” โปแลนด์ ทีมบ๊วยของตารางดวลกับออสเตรีย ทีมอันดับ 3 นัดนี้ทั้งสองทีมจะพลาดไม่ได้ เพราะหากใครพลาดท่าตกรอบทันที คู่นี้เริ่มเตะ 23.00 น.  อีกคู่กลุ่มซี ยูเครน บ๊วยของตาราง หลังพิงฝาเจอกับสโลวะเกีย รองจ่าฝูงนัดนี้จะแพ้ไม่ได้อีกแล้วไม่เช่นนั้นตกรอบทันที ขณะที่สโลวะเกียจะเน้นเป็นพิเศษเพราะหากคว้า 3 แต้มได้เข้าสู่รอบน็อกเอาต์ทันที คู่นี้เริ่มเตะเวลา 20.00 น. 

การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ปี 2024 หรือ “ยูโร 2024” ที่ประเทศเยอรมนี วันนี้ (21 มิ.ย.) เป็นเกมรอบแรก นัดสอง มีเกมฟาดแข้ง 3 คู่ 3 สนามให้ได้ลุ้นกัน คู่เอกอยู่ที่กลุ่มดี “กังหันลมสีส้ม” เนเธอร์แลนด์ จ่าฝูง จะพบกับ “ตราไก่” ฝรั่งเศส รองจ่าฝูง คู่นี้ฟาดแข้งกันที่เรดบูลล์ อารีนา เมืองไลป์ซิก เวลา 02.00 น. 

“กังหันลมสีส้ม” เนเธอร์แลนด์ ออกสตาร์ตได้อย่างยอดเยี่ยมเก็บชัยชนะเหนือโปแลนด์ไปได้ 2-1 เกมนี้โรนัลด์ คูมัน เฮดโค้ชชาวดัตช์ ไม่มีปัญหาใดๆ ให้กังวลหัวใจ ตัวหลักๆอยู่กันพร้อมหน้า โดยจะยึดผู้เล่นจากเกมล่าสุดลงวาดลวดลาย จะยึดระบบ 4-3-3 ลงสนาม ผู้รักษาประตูเลือกบาร์ต เวอร์บรูคเคน ลงเฝ้าเสาเป็นมือ 1 แนวรับวางเดนเซล ดุมฟรีส์ รับหน้าที่แบ็กขวา เวอร์จิล ฟาน ไดก์ กัปตันทีมที่โชว์ฟอร์มได้โดดเด่นเกมล่าสุดจับคู่กับสเตฟาน เดอ ฟราย ยืนเป็นคู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ ส่วนเนธาน อาเก ดูแลทางฝั่งซ้าย ติยานี ไรจ์นเดอร์ส คุมจังหวะเกมร่วมกับเจอร์ดี ชูเตน โจอี วีร์มัน แนวรุกวาง ซาบี ซิมมอนส์ โคดี กักโป รับหน้าที่ปีกขวาและซ้ายเดินเกมรุก โดยมีเมมฟิส เดปาย ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า

“ตราไก่” ฝรั่งเศส เก็บชัยชนะมาได้แบบหืดจับในเกมแรกเชือดออสเตรีย 1-0 นัดนี้ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ กุนซือคนเก่งได้รับข่าวดีเมื่อคีเลียน เอ็มบัปเป กองหน้ากัปตันทีมตัวเก่ง ที่ได้รับบาดเจ็บดั้งจมูกหักในเกมนัดแรกกลับมาลงฝึกซ้อมได้เรียบร้อยแล้วและน่าจะฟิตทัน พร้อมสวมหน้ากากป้องกันผนึกกำลังอุสมาน เดมเบเล มาร์คัส ตูราม แทน อองตวน กรีซมันน์ ผนึกกำลังอาเดรียง ราบิโอต์ คุมจังหวะเกมกลางสนาม โดยมีเอ็นโกโล ก็องเต รับบทผึ้งงานคอยตัดเกมคู่ต่อสู้ แนวรับวางฌูลล์ กุนเด อิบราฮิมา โกนาเต วิลเลียม ซาลิบา เตโอ เอร์นานเดซ ยืนเป็นแผงแบ็กโฟร์ ส่วนไมค์ เมนยอง ที่เซฟพัลวันในเกมที่แล้วจะลงเฝ้าเสาต่อไป

เป็นเกมซุปเปอร์บิ๊กแมตช์ของกลุ่มนี้เลยทีเดียว ทั้งสองฝ่ายต้องการชัยชนะเพื่อการันตีตั๋วไปลุยรอบน็อกเอาต์หลังจากเก็บชัยชนะมาด้วยกันทั้งคู่ ฝรั่งเศสค่อนข้างโล่งอกหลังจากได้เอ็มบัปเป ที่จมูกหักฟิตกลับมาพร้อมผนึกกำลังอุสมาน เดมเบเล มาร์คัส ตูราม ล่าตาข่าย ทำให้แนวรุกยังคงอันตรายเหมือนเดิม ขณะที่เนเธอร์แลนด์สภาพทีมค่อนข้างสมบูรณ์สุดๆ ครบเครื่องทั้งแนวรุกและรับ โดยเฉพาะแผงแบ็กโฟร์ของทัพ “กังหันลม” ชุดนี้ ถือว่าแข็งแกร่งพอตัวไม่ง่ายที่ใครจะทะลวงเข้าไปเจาะประตูได้ง่ายๆ รูปเกมทั้งสองทีมจะเปิดเกมแลกกันตลอดทั้งเกม ด้วยศักยภาพที่ค่อนข้างสูสีและต่างฝ่ายต่างรู้ทางกันดี ดูแล้วมีโอกาสสูงที่น่าจะจบลงด้วยการแบ่งแต้มกันไป

อีกคู่กลุ่มดี “อินทรีขาว” โปแลนด์ ทีมบ๊วยของตารางจะดวลกับออสเตรีย ทีมอันดับ 3 ของตาราง คู่นี้ฟาดแข้งกันที่โอลิมปิก สเตเดียม กรุงเบอร์ลิน เริ่มคิกออฟเวลา 23.00 น. 

โปแลนด์ออกสตาร์ตได้ไม่ดีเท่าไรพ่ายแพ้ เนเธอร์แลนด์มา 1-2 ทำให้จะพลาดไม่ได้อีกแล้ว เกมนี้มิเชล โพรเบียร์ซ เทรนเนอร์ชาวโปแลนด์ ได้รับข่าวดีเมื่อโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี กองหน้ากัปตันทีมจอมเก๋าที่ยังฟิตกลับมาลงยืนเป็นกองหน้าตัวเป้าคอยล่าตาข่ายอีกครั้ง โดยมีเซบาสเตียน ซีมานสกี แคชเปอร์ อูร์บันสกี ผนึกกำลังสร้างสรรค์เกมรุก พิโอเตอร์ ซีลินสกี ผนึกกำลังเพรมีสลาฟ ฟรานคอฟสกี ทาราส โรมันชุค และนิโกลา ซาเลฟสกี คุมจังหวะเกมกลางสนาม แนวรับมีแยน เบดนาเร็ค, บาร์ตอสซ์ โซลามอนซ์, ยาคุป คีวีออร์ ยืนเป็น 3 เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ โดยมีวอยเชียค เซสนี ลงเฝ้าเสา

ออสเตรียพ่ายแพ้ต่อฝรั่งเศสมา 0-1 แต่ฟอร์มการเล่นนั้นค่อนข้างคู่คี่สูสีเลยทีเดียว ทำให้เกมนี้ราล์ฟ รังนิก เทรนเนอร์คนเก่งจะยึดผู้เล่นจากเกมล่าสุดลงวาดลวดลาย ผู้รักษาประตูวางแพทริก เพนต์ซ ลงเฝ้าเสา แนวรับวางสเตฟาน พอช, มักซิมิเลียน โวเบอร์, เควิน ดันโซ, ฟิลลิปป์ เอ็มเวเน ยืนเป็นแผงแบ็กโฟร์ มาร์เซล ซาบิตเซอร์ กัปตันทีมคุมจังหวะเกมร่วมกับนิโคลัส ไซวัลด์ แนวรุก คอนลาร์ด ไลเมอร์ ผนึกกำลังฟลอเรียน กริลลิตซ์ และคริสโตฟ เบาการ์ทเนอร์ ปั้นเกมรุก แดนหน้าจะปรับมาใช้ มาร์โก อเนาโตวิช กองหน้าดาวซัลโวออกสตาร์ตตัวจริงลงล่าตาข่าย

พ่ายแพ้มาด้วยกันทั้งสองฝ่ายทำให้เกมนี้จะพลาดไม่ได้กันอีกแล้ว ทั้งสองทีมจะบู๊กันแหลกเพื่อหวังเก็บชัยชนะให้ได้ โปแลนด์ ฟอร์มจากเกมพ่ายแพ้เนเธอร์แลนด์ ไม่แย่เท่าไร เกมนี้ได้เลวานดอฟสกี กองหน้าตัวเก่งกลับมาฟิตสมบูรณ์อีกครั้ง จะทำให้แนวรุกกลับมาดูอันตรายเพิ่มมากขึ้น ด้าน ออสเตรีย ก็ทำได้ดีเกือบยันเสมอฝรั่งเศสมาได้ โดยเฉพาะแนวรับที่เล่นกันได้อย่างเหนียวแน่น แค่พลาดจากการทำเข้าประตูตัวเองเท่านั้นที่เหลือหยุดแนวรุก “ตราไก่” ได้อยู่หมัด แถมยังมีจังหวะโต้กลับเร็วค่อนข้างอันตรายจากทั้งอเนาโตวิช ซาบิตเซอร์ ไลเมอร์ เบาการ์ทเนอร์ น่าจะปั่นป่วนแนวรุกคู่ต่อสู้ได้ตลอดทั้งเกม รูปเกมทั้งสองทีมจะเปิดเกมรุกแลกกันตลอดทั้ง 90 นาที แม้ว่า “อินทรีขาว” จะดูวูบวาบกว่าแต่ ออสเตรียแข็งแกร่งทั้งรุกและรับมีลุ้นถึง 3 แต้มเช่นกัน

ด้านอีกคู่เป็นเกมของกลุ่ม อี สโลวะเกีย รองจ่าฝูงพบยูเครนบ๊วยของตารางคู่นี้ฟาดแข้งกันที่ เมอร์คูร์ สปีล-อารีนา เมืองดุสเซลดอร์ฟเริ่มเตะเวลา 20.00 น.

สโลวะเกียโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในเกมแรกพลิกล็อกโค่นเบลเยียม มาได้ 1-0 เกมนี้ ฟรานเชสโก คัลโซนา เฮดโค้ชชาวอิตาเลียนจะไม่มีการปรับเปลี่ยนทีมจากนัดแรก โดยจะลงเล่นในระบบ 4-3-3 เหมือนเดิม ผู้รักษาประตู มาร์ติน ดูบราฟกา จอมหนึบจากนิวคาสเซิลลงเฝ้าเสาเป็นมือ 1 แนว รับวางมิลาน สคริเนียร์ เดนนิส วาฟโร ยืนเป็นคู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ ปีเตอร์ เพคาริค ดาวิด ฮัคโก รับหน้าที่แบ็กขวาและซ้ายแดนกลาง ยูราย คุชกา คุมจังหวะเกมร่วมกับอองเดรจ์ ดูดา สตานิสลาฟ โลบอตกา แดนหน้าวางอิวาน ชรานซ์ ที่ยิงประตูชัยในเกมล่าสุดผนึกกำลังโรเบิร์ต โบเซนิค และลูกัส ฮาราสลิน ยืนเป็น 3 ประสานลงล่าตาข่าย

ยูเครนเล่นได้ผิดฟอร์มมากๆ ในเกมนัดแรกพ่ายแพ้โรมาเนียไปขาดลอย 0-3 ทำให้เกมนี้เซอร์เก เรบรอฟ เฮดโค้ชชาวยูเครนจะต้องกำชับลูกทีมจะพลาดไม่ได้อีกแล้ว เกมนี้จะยึดผู้เล่นหน้าเดิมลงวาดลวดลาย ผู้รักษาประตูยังวางใจ อันเดร ลูนิน จอมหนึบจากเรอัล มาดริด ลงเฝ้าเสาต่อไปแม้ว่าจะทำผิดพลาดในเกมแรกก็ตาม แนวรับวางยูคิม โคโนพลียา อิลลียา ซาบาร์นี, มีโคลา มัตวิเยนโก และโอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก ยืนเป็นแผงแบ็กโฟร์ ตาราส สเตฟาเนนโก คุมจังหวะเกมร่วมกับ มิโกลา ชาปาเรนโก และจอร์จี ซูดาคอฟ แดนหน้าวาง มิไคโล มูดริค ปีกตัวเก่งของเชลซีผนึกกำลัง วิคตอร์ ซิกันคอฟ อาร์เต็ม ดอฟบิค ยืนเป็น 3 ประสานแดนหน้า

สโลวะเกียทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในเกมนัดแรก ทำให้เกมนี้ตั้งเป้าจะเดินหน้าต่อเพื่อที่จะเก็บชัยชนะให้ได้เพื่อการันตีตั๋วไปลุยรอบน็อกเอาต์ ขณะที่ยูเครนพ่ายแพ้มาก่อนในเกมแรกอย่างยับเยิน ทำให้เกมนี้จะหลังพิงฝาจะต้องเก็บชัยชนะให้ได้สถานเดียว เพื่อหวังลุ้นเข้ารอบต่อไป รูปเกมจะเป็นทางยูเครนที่จะเป็นฝ่ายเดินเกมรุกกดดันเข้าใส่ตั้งแต่ต้นเกม แต่แนวรุกยังขาดความเฉียบคมและขาดความแน่นอน จึงยากจะเจาะแนวรับสโลวะเกียที่ค่อนข้างแกร่งไปแถมลูกทีมของฟรานเชสโก คัลโซนา ยังมีจังหวะโต้กลับสุดอันตราย หากยูเครนบุกเพลินๆ ก็มีโอกาสสอยร่วงได้เช่นกัน

ขอบคุณแหล่งข่าวจาก thairathsport


Copyright © 2024 Powered By Thscore All Rights Reserved.