ทุกๆ 58 นาทีต่อหนึ่งประตู: ถึงเวลาแล้วหรือยังที่ฟิลครูก "ซูเปอร์ซับ" ของทีมชาติเยอรมันจะได้เป็นตัวจริง❓❓❓
วันที่ 24 มิถุนายน Transfermarktได้รายงานถึงผลงานอันยอดเยี่ยมของ นิคลาส ฟิลครูก ในศึกยูโร 2024 รอบแบ่งกลุ่ม นัดสุดท้าย ที่เยอรมันเสมอกับสวิตเซอร์แลนด์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเป็นตัวสำรองที่ลงมาทำประตูตีเสมอในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์คุณค่าของเขาได้เป็นอย่างดี
ในเกมดังกล่าว ขณะที่สวิตเซอร์แลนด์นำอยู่ 1-0 ดูเหมือนว่าเยอรมันจะต้องจบบ้านนี้ด้วยการเป็นอันดับ 2 ของกลุ่ม A อย่างไรก็ตาม ในนาทีที่ 90+1 ฟิลครูก ที่ถูกส่งลงมาเป็นตัวสำรอง โขกประตูตีเสมอให้เยอรมัน เป็น 1-1 สร้างความเงียบงันไปทั่วสนามฟุตบอลในแฟรงก์เฟิร์ต พร้อมกับปลุกความหวังและแรงกระตุ้นให้กับทัพ "อินทรีเหล็ก" ได้อีกครั้ง
ประตูนี้ของฟิลครูกตอกย้ำความสามารถของเขาในฐานะ "ซูเปอร์ซับ" ทั้งในฟุตบอลโลกและฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป โดยในฟุตบอลโลก 2022 เขาทำไป 2 ประตูจากการเป็นตัวสำรอง ส่วนในยูโรครั้งนี้ เขาก็ทำไปแล้ว 2 ประตู จากการเป็นตัวสำรองเช่นกัน โดยประตูแรกเกิดขึ้นในเกมประเดิมสนามที่พบกับสกอตแลนด์ และประตูที่สองก็คือเกมกับสวิตเซอร์แลนด์
ข้อมูลจากTransfermarktระบุว่า ฟิลครูกมีสถิติการทำประตูที่น่าทึ่ง กองหน้าวัย 31 ปีจากโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์รายนี้ ลงสนามให้ทีมชาติเยอรมันไปแล้ว 19 นัด ทำได้ถึง 13 ประตู เฉลี่ยแล้วเขาจะยิงได้ 1 ประตูทุกๆ 58 นาที
สถิติดังกล่าวนำมาซึ่งความลำบากใจให้กับ ฮันส์-ดีเทอร์ ฟลิค เทรนเนอร์ทีมชาติเยอรมัน โดยฟลิคกล่าวหลังจบเกมว่า "ฟิลครูก แสดงให้เห็นแล้วว่าเขามีดีพอที่จะเป็นตัวจริงได้ตั้งแต่แรก แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขาก็ทำได้ดีไม่แพ้กันเมื่อลงมาเป็นตัวสำรอง"
ด้านฟิลครูกเองก็ยอมรับว่าเขาก็รู้สึกงงๆ กับฟอร์มอันร้อนแรงของตัวเองเวลาที่ลงสนามในฐานะตัวสำรอง "ผมไม่รู้เหมือนกันว่าเคล็ดลับคืออะไร เพราะตอนที่เล่นให้สโมสรผมไม่ค่อยได้ลงเป็นตัวสำรอง"
ตอนนี้ เมื่อเยอรมันผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ฟลิคต้องตัดสินใจแล้วว่า จะยังคงใช้ฟิลครูกเป็นตัวสำรองต่อไป หรือจะส่งเขาลงเป็นตัวจริง โดยฟลิคกล่าวว่า "เรามีความสุขที่ได้มีกองหน้าหมายเลข 9 แบบคลาสสิกอย่างเขาอยู่ในทีม ไค (ฮาแวร์ตซ์) ก็ทำได้ดี แต่ฟิลครูกก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมเช่นกันเมื่อลงมาเป็นตัวสำรอง การตัดสินใจเป็นเรื่องยาก มันขึ้นอยู่กับว่าเราจะเจอกับใครในรอบ 16 ทีมสุดท้ายและรอบก่อนรองชนะเลือด"
สำหรับคู่แข่งของเยอรมันในรอบ 16 ทีมสุดท้าย คือทีมอันดับ 2 ของกลุ่มC ซึ่งก็คือหนึ่งในสี่ทีมนี้ ได้แก่ อังกฤษ, เดนมาร์ก, สโลวีเนีย และเซอร์เบีย
ในเกมดังกล่าว ขณะที่สวิตเซอร์แลนด์นำอยู่ 1-0 ดูเหมือนว่าเยอรมันจะต้องจบบ้านนี้ด้วยการเป็นอันดับ 2 ของกลุ่ม A อย่างไรก็ตาม ในนาทีที่ 90+1 ฟิลครูก ที่ถูกส่งลงมาเป็นตัวสำรอง โขกประตูตีเสมอให้เยอรมัน เป็น 1-1 สร้างความเงียบงันไปทั่วสนามฟุตบอลในแฟรงก์เฟิร์ต พร้อมกับปลุกความหวังและแรงกระตุ้นให้กับทัพ "อินทรีเหล็ก" ได้อีกครั้ง
ประตูนี้ของฟิลครูกตอกย้ำความสามารถของเขาในฐานะ "ซูเปอร์ซับ" ทั้งในฟุตบอลโลกและฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป โดยในฟุตบอลโลก 2022 เขาทำไป 2 ประตูจากการเป็นตัวสำรอง ส่วนในยูโรครั้งนี้ เขาก็ทำไปแล้ว 2 ประตู จากการเป็นตัวสำรองเช่นกัน โดยประตูแรกเกิดขึ้นในเกมประเดิมสนามที่พบกับสกอตแลนด์ และประตูที่สองก็คือเกมกับสวิตเซอร์แลนด์
ข้อมูลจากTransfermarktระบุว่า ฟิลครูกมีสถิติการทำประตูที่น่าทึ่ง กองหน้าวัย 31 ปีจากโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์รายนี้ ลงสนามให้ทีมชาติเยอรมันไปแล้ว 19 นัด ทำได้ถึง 13 ประตู เฉลี่ยแล้วเขาจะยิงได้ 1 ประตูทุกๆ 58 นาที
สถิติดังกล่าวนำมาซึ่งความลำบากใจให้กับ ฮันส์-ดีเทอร์ ฟลิค เทรนเนอร์ทีมชาติเยอรมัน โดยฟลิคกล่าวหลังจบเกมว่า "ฟิลครูก แสดงให้เห็นแล้วว่าเขามีดีพอที่จะเป็นตัวจริงได้ตั้งแต่แรก แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขาก็ทำได้ดีไม่แพ้กันเมื่อลงมาเป็นตัวสำรอง"
ด้านฟิลครูกเองก็ยอมรับว่าเขาก็รู้สึกงงๆ กับฟอร์มอันร้อนแรงของตัวเองเวลาที่ลงสนามในฐานะตัวสำรอง "ผมไม่รู้เหมือนกันว่าเคล็ดลับคืออะไร เพราะตอนที่เล่นให้สโมสรผมไม่ค่อยได้ลงเป็นตัวสำรอง"
ตอนนี้ เมื่อเยอรมันผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ฟลิคต้องตัดสินใจแล้วว่า จะยังคงใช้ฟิลครูกเป็นตัวสำรองต่อไป หรือจะส่งเขาลงเป็นตัวจริง โดยฟลิคกล่าวว่า "เรามีความสุขที่ได้มีกองหน้าหมายเลข 9 แบบคลาสสิกอย่างเขาอยู่ในทีม ไค (ฮาแวร์ตซ์) ก็ทำได้ดี แต่ฟิลครูกก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมเช่นกันเมื่อลงมาเป็นตัวสำรอง การตัดสินใจเป็นเรื่องยาก มันขึ้นอยู่กับว่าเราจะเจอกับใครในรอบ 16 ทีมสุดท้ายและรอบก่อนรองชนะเลือด"
สำหรับคู่แข่งของเยอรมันในรอบ 16 ทีมสุดท้าย คือทีมอันดับ 2 ของกลุ่มC ซึ่งก็คือหนึ่งในสี่ทีมนี้ ได้แก่ อังกฤษ, เดนมาร์ก, สโลวีเนีย และเซอร์เบีย
จาก:ข่าวฮอต
โพสต์ฮอต
-
วิเคราะห์บอล ลิเวอร์พูล VS แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
-
วิเคราะห์บอล ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส VS ลูตัน ทาวน์
-
พรีวิวการแข่งขันระหว่าง ลิเวอร์พูล พบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
-
ดาวรุ่งมูลค่า 180 ล้านยิงประตูชัย!บาเลนเซีย 1-2 เรอัล มาดริด
-
เอซี มิลาน พลิกชนะ อินเตอร์ มิลาน 3-2 คว้าแชมป์ซูแปร์โกปปาอีตาเลียนาเป็นสมัยที่ 8
-
พรีวิวการแข่งขันระหว่าง คริสตัล พาเลซ พบ เชลซี