Mobile
APP
 
 

แชร์
ฟีดแบค
Thscore> ข่าวฟุตบอล> ข่าวฮอต> ยูโร 2024,Euro 2024,บอลยูโร

เบียร์หนักซัดสเปน วัดแข้งสุดสูสี ลุ้นศึก “ตราไก่” ปะทะฝอยทอง

เบียร์หนักซัดสเปน วัดแข้งสุดสูสี ลุ้นศึก “ตราไก่” ปะทะฝอยทอง
ศึกลูกหนังยูโร 2024 รอบ 8 ทีมสุดท้าย วันนี้ (5 ก.ค.) มีฟาดแข้งกัน 2 คู่ 2 สนาม เป็นเกมซุปเปอร์บิ๊กแมตช์ทั้งสองนัด เริ่มต้นคู่แรก “กระทิงดุ” สเปน ที่ฟอร์มกำลังฮอตจะพบกับ “อินทรีเหล็ก” เยอรมนี เจ้าภาพ นัดนี้ใส่กันยับแน่นอนเพื่อตั๋วไปสู่รอบตัดเชือก เกมนี้หลุยส์ เด ลา ฟวนเต กุนซือ เลือดกระทิงจัดเต็มจัดหนักวางลามีน ยามาล, อัลวาโร โมราตา และนิโก วิลเลียมส์ ลงล่าตาข่าย ส่วนฮูเลียน นาเกลส์มันน์ กุนซือเจ้าภาพก็จัดชุดที่ดีที่สุดลงสู้ จามาล มูเซียลา, ฟลอเรียน เวียร์ทซ์ และไค ฮาเวิร์ตซ์ พร้อมทะลวงประตูคู่ต่อสู้ เริ่มเตะ 23.00 น.

อีกคู่ก็ใส่กันดุเดือดไม่แพ้กัน “ฝอยทอง” โปรตุเกส จะดวลกับ “ตราไก่” ฝรั่งเศส รับรองจัดเต็มจัดหนักกันตลอดทั้ง 90 นาที นัดนี้โรแบร์โต มาร์ติเนซ เทรนเนอร์เลือดกระทิงของโปรตุเกสไม่มีปัญหาใดๆ ให้กังวลใจยังวางใจคริสเตียโน โรนัลโด ดาวยิงจอมเก๋าออกสตาร์ตตัวจริงผนึกกำลังแบร์นาร์โด ซิลวา และราฟาเอล เลเอา ล่าตาข่าย ส่วนดิดิเยร์ เดส์ชองส์ เฮดโค้ชชาวน้ำหอมก็จัดเต็มไม่มีแผ่ววาง คีเลียน เอ็มบัปเป, มาร์คัส ตูราม, อองตวน กรีซ มันน์ ยืนเป็น 3 ประสานคอยล่าตาข่าย เกมนี้คิกออฟ 02.00 น.

การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ปี 2024 หรือ “ยูโร 2024” ที่ประเทศเยอรมนี รอบ 8 ทีมสุดท้ายวันนี้ (5 ก.ค.) มีฟาดแข้งกัน 2 คู่ 2 สนาม “กระทิงดุ” สเปน พบกับ “อินทรีเหล็ก” เยอรมนี ฟาดแข้งกันที่ เอ็มเอชพี อารีนา, เมืองสตุตการ์ต เริ่มเตะเวลา 23.00 น.

“กระทิงดุ” สเปนฟอร์มร้อนแรงไม่เลิกไล่อัด จอร์เจียไปยับเยิน 4-1 ในเกมรอบ 16 ทีมสุดท้าย ทำให้ผลงานโดยรวมยิงไป 9 ประตูพลาดท่าเสียแค่ลูกเดียว เกมนี้หลุยส์ เด ลา ฟวนเต เทรนเนอร์ชาวกระทิงไม่มีปัญหาใดๆให้กวนหัวใจ ตัวหลักๆ อยู่กันครบครัน โดยจะยึดผู้เล่นหน้าเดิมๆลงวาดลวดลายไม่เปลี่ยนแปลงสักตำแหน่งจะลงเล่นในระบบ 4-3-3 ผู้รักษาประตู อูไน ซิมอน ลงเฝ้าเสา แนวรับวางดานี การ์บาฆาล รับหน้าที่แบ็กขวา อายเมอริค ลาปอร์ต โรบิน เลอ นอร์มองด์ ยืนเป็นคู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ มาร์ค กูกูเรญา ดูแลทางฝั่งซ้าย โรดรี กองกลางแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ปักหลักตัดเกม เปดรี ผนึกกำลัง ฟาเบียน รุยซ์ ขับเคลื่อนเกมกลางสนาม แดนหน้าวางลามีน ยามาล อัลวาโร โมราตา และนิโก วิลเลียมส์ ผนึกกำลังลงล่าตาข่าย

“อินทรีเหล็ก” เยอรมนีผ่านเข้ารอบ 8 มาไม่ยากเย็น หลังจากบดเอาชนะเดนมาร์กไป 2-0 แถมเกมนี้ยังได้โจนาธาน ทาห์ พ้นโทษแบนกลับมาลงสนามอีกครั้ง ทำให้หลังแน่นปึ้กอีกครั้ง ทำให้เกมนี้ ฮูเลียน นาเกลส์มันน์ กุนซือเลือดเบียร์จัดทัพใหญ่ลงวาดลวดลายได้แบบไม่มีปัญหายึดระบบ 4-2-3-1 เหมือนเดิม มานูเอล นอยเออร์ ผู้รักษาประตูจอมเก๋าลงเฝ้าเสา โจซัว คิมมิช รับหน้าที่แบ็กขวา อันโตนิโอ รูดิเกอร์ โจนาธาน ทาห์ ยืนเป็นคู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ ส่วนดาวิด รวม ดูแลทางฝั่งซ้าย โทนี โครส กองกลางจอมเก๋าบัญชาเกมกลางสนามร่วมกับโรเบิร์ต อันดริช ส่วนแนวรุกไม่มีการปรับเปลี่ยนแต่อย่างใจ จามาล มูเซียลา แนวรุกดาวรุ่งจากบาเยิร์นที่กดไปแล้ว 3 ตุมจะผนึกกำลัง อิลคาย กุนโดกัน กัปตันทีมและฟลอเรียน เวียร์ทซ์ ปั้นเกมรุก แดนหน้าวางไค ฮาเวิร์ตซ์ ออกสตาร์ตตัวจริงต่อไป

การเจอกันในเกมนี้ของทั้งสองทีมถือว่าเป็นเกมนัดชิงชนะเลิศได้เลย เพราะเป็นสองทีมที่ฟอร์มดีที่สุดในยูโรหนนี้แล้ว สเปนร้อนแรงที่สุดในทัวร์นาเมนต์แล้ว ยิงไปทั้งหมด 9 ประตู เสียแค่เม็ดเดียว แนวรุกค่อนข้างจัดจ้าน วูบวาบและแฝงไปด้วยความอันตราย ด้านเยอรมนีก็ฟอร์มไม่ธรรมดาทั้งเกมรุกและรับทำหน้าที่กันได้ลงตัวสุดๆ แม้ว่า “อินทรีเหล็ก” ปัญหาแดนหน้าจบสกอร์ไม่เป็น แต่ก็ยังมีบรรดาแนวรุกก็รับหน้าที่แทน รูปเกมทั้งสองทีมจะเปิดเกมแลกกันตั้งแต่ต้นเกม เยอรมนีได้เปรียบเรื่องเสียงเชียร์ก็จริง แต่สเปนชุดนี้บอกได้เลยว่าจิตใจแข็งแกร่งเกินวัยไปมาก แถมยังมีจังหวะเข้าทำที่ค่อนข้างหลากหลายและเฉียบคม น่าจะป่วนแนวรับแข้งเบียร์ได้ตลอดทั้งเกมแน่นอน ดูแล้วนัดนี้มีโอกาสออกได้ทั้งสามหน้า แต่โอกาสต้องไปลุยกันในช่วงต่อเวลาค่อนข้างสูง

ส่วนอีกคู่ในรอบ 8 ทีม “ฝอยทอง” โปรตุเกส อดีตแชมป์ในปี 2016 จะพบกับ “ตราไก่” ฝรั่งเศส รองแชมป์โลกปี 2022 เกมนี้ฟาดแข้งกันที่โวล์คสปาร์ก สตาดิโอน เมืองฮัมบูร์ก เริ่มเตะเวลา 02.00 น. 

“ฝอยทอง” โปรตุเกสผ่านเข้ารอบ 8 ทีมมาแบบต้องดวลกันถึงลูกจุดโทษ สภาพทีมตอนนี้ไม่มีปัญหาในการจัดทัพแต่อย่างใด นักเตะตัวหลักๆ ไม่มีใครติดโทษแบนหรือบาดเจ็บ เกมนี้โรแบร์โต มาร์ติเนซ กุนซือเลือดกระทิงยังลงเล่นในระบบ 4-2-3-1 เหมือนเดิม ดิโอโก คอสตา ที่โชว์ฟอร์มหนึบเซฟ 3 จุดโทษติดจะลงเฝ้าเสา แนวรับวางชูเอา กานเชโล รับหน้าที่แบ็กขวา เปเป รูเบน ดิอาส ยืนเป็นแผงแบ็กโฟร์ นูโน เมนเดส ดูแลฝั่งซ้าย ชูเอา ปาลินญา วิตินญา คุมจังหวะเกมกลางสนาม บรูโน แฟร์นันเดส ผนึกกำลังแบร์นาร์โด ซิลวา ราฟาเอล เลเอา ลงสร้างสรรค์เกมรุก แดนหน้าวาง คริสเตียโนโรนัลโด กองหน้ากัปตันทีมวัย 39 ปี ที่ยังควานหาประตูแรกของตัวเองในทัวร์นาเมนต์ลงยืนหน้าเป้าลงล่าตาข่าย

“ตราไก่” ฝรั่งเศสตีตั๋วเข้ารอบ 8 ทีมมาด้วยการเอาชนะเบลเยียมมาได้ 1-0 นัดนี้จะหมดสิทธิ์ใช้งานอาเดรียง ราบิโอต์ มิดฟิลด์ตัวเก่งที่ติดโทษแบน หลังจากสะสมใบเหลืองครบตามโควตาเพียงแค่รายเดียว แต่ตัวหลักคนอื่นๆอยู่กันพร้อมหน้า ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ กุนซือชาวน้ำหอม จะยึดระบบลงเล่นระบบ 4-3-1-2 ลงสนามเหมือนเดิม ไมค์ เมนยอง ผู้รักษาประตูจากเอซี มิลาน แนวรับวางฌูลล์ กุนเด แบ็กขวา ดาโยต์ อูปาเมกาโน วิลเลียม ซาลิบา ยืนเป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ เตโอ เฟร์นานเดซ ดูแลฝั่งซ้าย เอ็นโกโล ก็องเต รับบทผึ้งงานคอยวิ่งไล่ตัดเกม ออเรเลียง ชูอาเมนี เอดูอาร์โด คามาวิงกา 2 คู่หูเรอัล มาดริด ขับเคลื่อนเกมกลางสนาม อองตวน กรีซมันน์ รับบทกองหน้าตัวต่ำปั้นเกมรุก แดนหน้าวางคีเลียน เอ็มบัปเป กองหน้ากัปตันทีมตัวเก่งจะสวมหน้ากากผนึกกำลัง มาร์คัส ตูราม ลงทะลวงตาข่าย

เป็นอีกคู่ที่เรียกว่าเป็นเกมรอบชิงชนะเลิศได้เลย โปรตุเกสเกือบเอาตัวไม่รอดจากนัดที่แล้ว ทำให้เกมนี้จะต้องเน้นเป็นพิเศษ โดยเฉพาะแนวรุกที่ต้องปรับจูนใหม่ ช่วงหลังคริสเตียโน โรนัลโด ฟอร์มตกลงไปเยอะ ทำให้ความอันตรายตกลงไปด้วย ส่วนฝรั่งเศสเข้ารอบมาเพราะคู่ต่อสู้ทำเข้าประตูตัวเอง ฟอร์มก็ไม่ต่างกันมาก แนวรุกสร้างโอกาสได้แต่จบสกอร์ไม่ได้ โดยเฉพาะคีเลียน เอ็มบัปเป ที่ยังไม่ชินกับหน้ากากที่ใส่ ทำให้ยังไม่สามารถเรียกฟอร์มเดิมๆ ออกมาได้ รูปเกมทั้งสองทีมจะเปิดเกมเข้าแลกกันทันทีตั้งแต่ต้นเกม ต่างฝ่ายต่างรู้ทางกันดี เพราะนักเตะแต่ละคนคุ้นชินกันดีเจอกันมาบ่อย ดูแล้วมีโอกาสจะต้องเล่นกันในช่วงต่อเวลาพิเศษค่อนข้างสูง

ขอบคุณแหล่งข่าวจาก thairathsport
Copyright © 2025 Powered By Thscore All Rights Reserved.