กระทิงยังจัดจ้าน ฟอร์มเหนือกว่า แม้ขาด “2 ขุนพล” พร้อมหักตราไก่ ตีตั๋วเข้าไปรอชิง
คู่นี้มีลุ้น ศึกลูกหนังยูโร 2024 รอบ รองชนะเลิศ ระหว่าง “กระทิงดุ” สเปน ทีมฟอร์มดีที่สุดของทัวร์นาเมนต์ พบกับ “ตราไก่” ฝรั่งเศส รองแชมป์โลกปี 2022 ที่ผ่านเข้ารอบมาด้วยการยิงจุดโทษ แต่นัดนี้ทีมชาติสเปนต้องปวดหัวเมื่อขาด 3 ตัวหลัก ทำให้ต้องปรับทัพยกใหญ่ แต่แนวรุกอยู่กันครบ ขณะที่ ทัพ “เลอ เบลอส์” ไม่มีปัญหาให้ปวดหัวใจเมื่อตัวหลักๆอยู่กันพร้อมหน้า น่าจะใส่กันยับแน่เพราะมีตั๋วรอบชิงชนะเลิศเป็นเดิมพัน และจากสถิติที่เคยพบกันมา “กระทิงดุ” ขี่ “ตราไก่” อยู่เล็กน้อย
การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ปี 2024 หรือ “ยูโร 2024” ที่ประเทศเยอรมนี ในค่ำคืนวันที่ 9 ก.ค. ล่วงเข้าวันที่ 10 ก.ค.เป็นการเตะรอบรองชนะเลิศ ระหว่าง “กระทิงดุ” สเปน แชมป์ยูโร 3 สมัย พบกับ “ตราไก่” ฝรั่งเศส แชมป์รายการนี้ 3 สมัยเท่ากัน เกมนี้ฟาดแข้งกันที่อันลิอันซ์ อารีนา, เมืองมิวนิก เริ่มเตะเวลา 02.00 น. วันที่ 10 ก.ค. พีพีทีวี เอชดี ช่อง 36 และทรูวิชั่นส์ ช่อง 603 ถ่ายทอดสด โดยจากสถิติทั้งสองทีมเคยเจอกันมาทั้งหมด 36 ครั้ง สเปนชนะ 16 ครั้ง เสมอ 7 ครั้ง ขณะที่ฝรั่งเศสชนะ 13 ครั้ง
ทั้งนี้ “กระทิงดุ” สเปน ฟอร์มร้อนแรงต่อเนื่องในรอบ 8 ทีม โค่น “อินทรีเหล็ก” เยอรมนี เจ้าภาพมา 2-1 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ แต่เกมนี้จะหมดสิทธิ์ใช้งาน 2 แนวรับอย่างดานี การ์บาฆาล และโรบิน เลอ นอร์มองด์ ที่ติดโทษแบนหลังจากสะสมโควตาใบเหลืองครบ 2 ใบ และจะเป็นทางเฆซุส นาบาส และนาโช เฟร์นานเดซ จะลงทำหน้าที่แทน ขณะที่ เปดรีที่ได้รับบาดเจ็บจากเกมล่าสุด ปิดเทอมยาวไปก่อนหน้านี้แล้ว
นัดนี้ หลุยส์ เด ลา ฟวนเต เทรนเนอร์ชาวกระทิง ลงเล่นในระบบ 4-3-3 ผู้รักษาประตู อูไน ซิมอน จอมหนึบลงเฝ้าเสาเหมือนเดิม แนวรับวาง อายเมอริค ลาปอร์ต นาโช เฟร์นานเดซ ยืนเป็นคู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ เฆซุส นาบาส และมาร์ค กูกูเรญา ลงทำหน้าที่แบ็กขวาและซ้าย โรดรี กองกลางตัวเก่งปักหลักตัดเกม ดานี โอลโม ที่ซัดประตูได้ในเกมล่าสุดจะผนึกกำลัง ฟาเบียน รุยซ์ ขับเคลื่อนเกม แนวรุกยังไม่มีเปลี่ยนแปลงวางลามีน ยามาล อัลวาโร โมราตา และนิโก วิลเลียมส์ ยืนเป็น 3 ประสานไล่ล่าตาข่าย
ส่วน “ตราไก่” ฝรั่งเศส ผ่านเข้ารอบตัดเชือกมาด้วยการดวลจุดโทษเอาชนะโปรตุเกสไปได้ 5-3 หลังจากเสมอในเวลา 120 นาทีด้วยสกอร์ 0-0 นัดนี้ ทัพ “เลอ เบลอส์” จะได้ตัวอาเดรียง ราบิโอต์ กองกลางตัวเก่งพ้นโทษแบนกลับมาสู่ทีมอีกครั้ง ส่วนตัวหลักคนอื่นๆอยู่กันพร้อมหน้า ไม่มีใครเจ็บหรือติดโทษแบนแต่อย่างใด
ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ กุนซือชาวน้ำหอม เกมนี้จะไม่มีการปรับทัพจากเกมล่าสุดแต่อย่างใดจะลงเล่นในระบบ 4-3-1-2 เหมือนเดิม ไมค์ เมนยอง จะลงเฝ้าเสาเป็นมือ 1 แนวรับวางดาโยต์ อูปาเมกาโน วิลเลียม ซาลิบา ยืนเป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ ฌูลล์ กุนเด เตโอ เฟร์นานเดซ รับหน้าที่แบ็กขวาและซ้าย เอ็นโกโล ก็องเต ปักหลักตัดเกม ออเรเลียง ชูอาเมนี, อาเดรียง ราบิโอต์ ขับเคลื่อนเกมกลางสนาม อองตวน กรีซมันน์ รับบทกองหน้าตัวต่ำ ปั้นเกมรุก แดนหน้าจะปรับเล็กน้อยด้วยการส่งมาร์คัส ตูราม ที่กลับมาฟิตสมบูรณ์อีกครั้งได้ออกสตาร์ตตัวจริงผนึกกำลัง คีเลียน เอ็มบัปเป กองหน้ากัปตันทีมช่วยกันทะลวงตาข่ายคู่ต่อสู้
เกมนัดนี้ ทั้งสองทีมเปิดเกมรุกใส่กันยับแน่นอนเพราะต่างฝ่ายต่างต้องการชัยชนะ เพื่อที่จะตบเท้าเข้าไปสู่รอบชิงชนะเลิศ สเปนเป็นทีมที่โชว์ฟอร์มได้ดีที่สุดในทัวร์นาเมนต์นี้เก็บชัยชนะมาได้ทั้งหมด 5 นัดรวด แต่เกมนี้ทัพ “ลา โรฆา” มีปัญหาพอสมควรเมื่อขาด 2 แนวรับตัวหลักอย่างดานี การ์บาฆาล และโรบิน เลอ นอร์มองด์ ที่ติดโทษแบน เช่นเดียวกับการหายไปของเปดรีที่เจ็บ น่าจะส่งผลกระทบต่อภาพรวมของทัพ “กระทิงดุ” พอสมควร
ต่างจากฝรั่งเศสที่ขุมกำลังมาเยือนด้วยสภาพสมบูรณ์สุดๆ นักเตะตัวหลักๆอยู่กันพร้อมหน้ามี อองตวน กรีซมันน์, มาร์คัส ตูราม และคีเลียน เอ็มบัปเป เป็นตัวทีเด็ด แม้ว่าฟอร์มโดยรวมจะสู้ไม่ได้ แต่ทัพ “เลอ เบลอส์” มีความเก๋าและพกประสบการณ์ในการเล่นเกมระดับนี้จะคอยคอนโทรลเกมได้ตลอดทั้ง 90 นาที รูปเกมทั้งสองทีมจะเปิดเกมแลกกันตั้งแต่ต้นเกม แม้ว่าสเปนฟอร์มในทัวร์นาเมนต์นี้จะดีก็จริง การหายไปของตัวหลักส่งผลต่อสมดุลทีมแน่นอน ยิ่งมาเจอแข้ง “ตราไก่” แต่ละคนเขี้ยวลากดินทั้งนั้น น่าจะสร้างความลำบากใจให้กับสเปนเช่นกัน ดูแล้วต่างฝ่ายต่างรู้ทางกันดีมีโอกาสต้องลุ้นยาวถึงช่วงต่อเวลาค่อนข้างสูง
ขอบคุณแหล่งข่าวจากthairath
ทั้งนี้ “กระทิงดุ” สเปน ฟอร์มร้อนแรงต่อเนื่องในรอบ 8 ทีม โค่น “อินทรีเหล็ก” เยอรมนี เจ้าภาพมา 2-1 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ แต่เกมนี้จะหมดสิทธิ์ใช้งาน 2 แนวรับอย่างดานี การ์บาฆาล และโรบิน เลอ นอร์มองด์ ที่ติดโทษแบนหลังจากสะสมโควตาใบเหลืองครบ 2 ใบ และจะเป็นทางเฆซุส นาบาส และนาโช เฟร์นานเดซ จะลงทำหน้าที่แทน ขณะที่ เปดรีที่ได้รับบาดเจ็บจากเกมล่าสุด ปิดเทอมยาวไปก่อนหน้านี้แล้ว
นัดนี้ หลุยส์ เด ลา ฟวนเต เทรนเนอร์ชาวกระทิง ลงเล่นในระบบ 4-3-3 ผู้รักษาประตู อูไน ซิมอน จอมหนึบลงเฝ้าเสาเหมือนเดิม แนวรับวาง อายเมอริค ลาปอร์ต นาโช เฟร์นานเดซ ยืนเป็นคู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ เฆซุส นาบาส และมาร์ค กูกูเรญา ลงทำหน้าที่แบ็กขวาและซ้าย โรดรี กองกลางตัวเก่งปักหลักตัดเกม ดานี โอลโม ที่ซัดประตูได้ในเกมล่าสุดจะผนึกกำลัง ฟาเบียน รุยซ์ ขับเคลื่อนเกม แนวรุกยังไม่มีเปลี่ยนแปลงวางลามีน ยามาล อัลวาโร โมราตา และนิโก วิลเลียมส์ ยืนเป็น 3 ประสานไล่ล่าตาข่าย
ส่วน “ตราไก่” ฝรั่งเศส ผ่านเข้ารอบตัดเชือกมาด้วยการดวลจุดโทษเอาชนะโปรตุเกสไปได้ 5-3 หลังจากเสมอในเวลา 120 นาทีด้วยสกอร์ 0-0 นัดนี้ ทัพ “เลอ เบลอส์” จะได้ตัวอาเดรียง ราบิโอต์ กองกลางตัวเก่งพ้นโทษแบนกลับมาสู่ทีมอีกครั้ง ส่วนตัวหลักคนอื่นๆอยู่กันพร้อมหน้า ไม่มีใครเจ็บหรือติดโทษแบนแต่อย่างใด
ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ กุนซือชาวน้ำหอม เกมนี้จะไม่มีการปรับทัพจากเกมล่าสุดแต่อย่างใดจะลงเล่นในระบบ 4-3-1-2 เหมือนเดิม ไมค์ เมนยอง จะลงเฝ้าเสาเป็นมือ 1 แนวรับวางดาโยต์ อูปาเมกาโน วิลเลียม ซาลิบา ยืนเป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ ฌูลล์ กุนเด เตโอ เฟร์นานเดซ รับหน้าที่แบ็กขวาและซ้าย เอ็นโกโล ก็องเต ปักหลักตัดเกม ออเรเลียง ชูอาเมนี, อาเดรียง ราบิโอต์ ขับเคลื่อนเกมกลางสนาม อองตวน กรีซมันน์ รับบทกองหน้าตัวต่ำ ปั้นเกมรุก แดนหน้าจะปรับเล็กน้อยด้วยการส่งมาร์คัส ตูราม ที่กลับมาฟิตสมบูรณ์อีกครั้งได้ออกสตาร์ตตัวจริงผนึกกำลัง คีเลียน เอ็มบัปเป กองหน้ากัปตันทีมช่วยกันทะลวงตาข่ายคู่ต่อสู้
เกมนัดนี้ ทั้งสองทีมเปิดเกมรุกใส่กันยับแน่นอนเพราะต่างฝ่ายต่างต้องการชัยชนะ เพื่อที่จะตบเท้าเข้าไปสู่รอบชิงชนะเลิศ สเปนเป็นทีมที่โชว์ฟอร์มได้ดีที่สุดในทัวร์นาเมนต์นี้เก็บชัยชนะมาได้ทั้งหมด 5 นัดรวด แต่เกมนี้ทัพ “ลา โรฆา” มีปัญหาพอสมควรเมื่อขาด 2 แนวรับตัวหลักอย่างดานี การ์บาฆาล และโรบิน เลอ นอร์มองด์ ที่ติดโทษแบน เช่นเดียวกับการหายไปของเปดรีที่เจ็บ น่าจะส่งผลกระทบต่อภาพรวมของทัพ “กระทิงดุ” พอสมควร
ต่างจากฝรั่งเศสที่ขุมกำลังมาเยือนด้วยสภาพสมบูรณ์สุดๆ นักเตะตัวหลักๆอยู่กันพร้อมหน้ามี อองตวน กรีซมันน์, มาร์คัส ตูราม และคีเลียน เอ็มบัปเป เป็นตัวทีเด็ด แม้ว่าฟอร์มโดยรวมจะสู้ไม่ได้ แต่ทัพ “เลอ เบลอส์” มีความเก๋าและพกประสบการณ์ในการเล่นเกมระดับนี้จะคอยคอนโทรลเกมได้ตลอดทั้ง 90 นาที รูปเกมทั้งสองทีมจะเปิดเกมแลกกันตั้งแต่ต้นเกม แม้ว่าสเปนฟอร์มในทัวร์นาเมนต์นี้จะดีก็จริง การหายไปของตัวหลักส่งผลต่อสมดุลทีมแน่นอน ยิ่งมาเจอแข้ง “ตราไก่” แต่ละคนเขี้ยวลากดินทั้งนั้น น่าจะสร้างความลำบากใจให้กับสเปนเช่นกัน ดูแล้วต่างฝ่ายต่างรู้ทางกันดีมีโอกาสต้องลุ้นยาวถึงช่วงต่อเวลาค่อนข้างสูง
ขอบคุณแหล่งข่าวจากthairath
โพสต์ฮอต
-
วิเคราะห์บอล บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พบ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี
-
วิเคราะห์บอล เอซี มิลาน VS เซอร์เวน่า ซเวซด้า
-
ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 10 ธ.ค. 67 หงส์แดงบุกเยือน! เฮดโค้ชใหม่พาทีม💥ฟอร์มร้อนแรง
-
ประวัติเลเวอร์คูเซ่น (Bayer 04 Leverkusen) ยอดทีมลีกเยอรมนี
-
วิเคราะห์บอล เอฟซี ชักตาร์ โดเน็ตส์ก VS บาเยิร์น มิวนิค
-
พรีวิวการแข่งขันระหว่าง ยูเวนตุส พบ แมนเชสเตอร์ ซิตี้