“กังหันลมสีส้ม” คมกว่า ล่าตาข่าย “สิงโตคำราม” วัดแข้งไปตีตั๋ว ลุ้นชิงชนะเลิศ
การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ปี 2024 หรือ “ยูโร 2024” ที่ประเทศเยอรมนี ที่ใกล้เห็นโฉมหน้าทีมที่จะเข้าไปชิงถ้วยแชมป์ โดยรอบรองชนะเลิศ คู่สุดท้าย “กังหันลมสีส้ม” เนเธอร์แลนด์ แชมป์ยูโร 1 สมัย พบกับ “สิงโตคำราม” อังกฤษ รองแชมป์เก่า ฟาดแข้งกันที่เวสต์ฟาเล่น สตาดิโอน, เมืองดอร์ทมุนด์ เริ่มคิกออฟเวลา 02.00 น. วันที่ 11 ก.ค. พีพีทีวี เอชดี ช่อง 36 และทรูวิชั่นส์ ช่อง 603 ถ่ายทอดสด สถิติทั้งสองทีมเคยเจอกันทั้งหมด 22 ครั้ง เนเธอร์แลนด์ ชนะ 7 ครั้ง เสมอ 9 ครั้ง และอังกฤษ ชนะ 9 ครั้ง
เกมนัดนี้ “กังหันลมสีส้ม” เนเธอร์แลนด์ ที่พลิกกลับมาชนะ “ไก่งวง” ตุรกี 2-1 ในรอบตัดเชือก ยังมีขุมกำลังอยู่กันพร้อมหน้า ไม่มีปัญหานักเตะเจ็บหรือติดโทษแบนให้กังวลหัวใจ ตัวหลักๆอยู่กันครบครัน ดังนั้นโรนัลด์ คูมัน เฮดโค้ชชาวดัตช์ จะยึดผู้เล่นจากเกมนัดล่าสุดลงวาดลวดลาย และลงเล่นในระบบ 4-3-3 เหมือนเดิม ผู้รักษาประตูยังเป็นบาร์ต เวอร์บรูคเคน จอมหนึบที่เซฟพาทีมเข้ารอบมาจะทำหน้าที่มือ 1 ต่อไป แนวรับวางเดนเซล ดุมฟรีส์ รับหน้าที่แบ็กฝั่งขวา เวอร์จิล ฟาน ไดก์ กัปตันทีมจะจับคู่กับสเตฟาน เดอ ฟราย ยืนเป็นคู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟเหมือนเดิม ส่วนเนธาน อาเก ดูแลฝั่งซ้าย ซาบี ซิมมอนส์ คุมเกมกลางสนามร่วมกับติยานี ไรจ์นเดอร์ส และเจอร์ดี ชูเตน อีกครั้ง แดนหน้า โคดี กักโป ที่กดไปแล้ว 3 ลูกในฟุตบอลยูโรหนนี้ ผนึกกำลังสตีเฟน เบิร์กไวจ์น และเมมฟิส เดปาย ยืนเป็น 3 ประสานลงถล่มประตูคู่ต่อสู้
ส่วน “สิงโตคำราม” อังกฤษ รองแชมป์เก่า ผ่านเข้ารอบมาด้วยการดวลจุดโทษเอาชนะสวิต เซอร์แลนด์มาได้ 5-3 หลังเสมอในเวลา 120 นาที สกอร์ 1-1 เกมนี้จะได้มาร์ค เกฮี พ้นโทษแบนกลับมาสู่ทีมอีกครั้ง เช่นเดียวกับลุค ชอว์ แบ็กซ้ายที่จะกลับมาฟิตสมบูรณ์อีกครั้ง นัดนี้ แกเร็ธ เซาธ์เกต นายใหญ่เลือดผู้ดี จะปรับมาเล่นแผงหลัง 4 ตัวอีกครั้ง หลังจากนัดที่แล้วใช้ 3 เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ แล้วลงเล่นในระบบ 4-2-3-1 ผู้รักษาประตูยังเป็นจอร์แดน พิกฟอร์ด จอมหนึบที่เซฟจุดโทษนัดที่แล้วลงเฝ้าเสา แนวรับจะปรับทัพเล็กน้อยเมื่อลุค ชอว์ ที่กลับมาฟิตอีกครั้งจะกลับมาทำหน้าที่แบ็กซ้ายอีกครั้ง จอห์น สโตนส์, มาร์ค เกฮี ยืนเป็นคู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ ส่วนไคล์ วอล์คเกอร์ รับหน้าที่แบ็กขวา แดนกลาง คอบบี ไมนู เดแคลน ไรซ์ จับคู่คุมจังหวะเกม จู๊ด เบลลิงแฮม มิดฟิลด์ตัวเก่งผนึกกำลัง บูกาโย ซากา ฟิล โฟเดน ขับเคลื่อนเกมรุก แดนหน้าวางแฮร์รี เคน กองหน้ากัปตันทีมลงยืนหน้าเป้าลงล่าตาข่าย
การมาเจอกันในฟอร์มที่กำลังเข้าฝักด้วยกันทั้งสองทีม เนเธอร์แลนด์ช่วงหลังฟอร์มร้อนแรงจนฉุดไม่อยู่จริงๆ แถมยังมีทีเด็ดในแนวรุกที่ค่อนข้างหลากหลาย โจมตีได้ทั้งภาคพื้นและกลางอากาศ น่าจะสร้างปัญหาให้กับคู่ต่อสู้ได้ตลอดทั้งเกม ไม่ว่าจะเป็นทั้งกักโป, เดปาย หรือตัวสำรองอย่างเวาท์ เวกฮอร์ตส์ ขณะที่อังกฤษฟอร์มโดยรวมค่อนข้างโอเค นักเตะกลับมามั่นใจกันมากขึ้น กล้าลากเลื้อย และจังหวะเข้าทำเกมอันตรายมากขึ้น ยิ่งการได้ชอว์ กลับมาทำให้ทางฝั่งซ้ายอันตรายเพิ่มมากขึ้นทั้งรุกและรับ เกมแนวรุกทั้งเบลลิงแฮม, ซากา โฟเดน และเคนเริ่มประสานกันได้อย่างลงตัวและดูวูบวาบอันตรายอีกครั้ง
ทั้งสองทีมน่าจะเปิดเกมรุกแลกกันตลอดทั้ง 90 นาที แม้ว่า “กังหันลมสีส้ม” จะดูฟอร์มเหนือกว่า แต่ขุมกำลัง “สิงโตคำราม” ดูดีกว่า รูปเกมจะออกมาค่อนข้างคู่คี่สูสี มีโอกาสที่จะต้องเล่นกันยาวจนถึงช่วงต่อเวลาค่อนข้างสูง
ขอบคุณแหล่งข่าวจาก thairathsport
โพสต์ฮอต
-
วิเคราะห์บอล บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พบ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี
-
วิเคราะห์บอล เอซี มิลาน VS เซอร์เวน่า ซเวซด้า
-
ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 10 ธ.ค. 67 หงส์แดงบุกเยือน! เฮดโค้ชใหม่พาทีม💥ฟอร์มร้อนแรง
-
ประวัติเลเวอร์คูเซ่น (Bayer 04 Leverkusen) ยอดทีมลีกเยอรมนี
-
วิเคราะห์บอล เอฟซี ชักตาร์ โดเน็ตส์ก VS บาเยิร์น มิวนิค
-
พรีวิวการแข่งขันระหว่าง ยูเวนตุส พบ แมนเชสเตอร์ ซิตี้