Mobile
APP
 
 

แชร์
ฟีดแบค
Thscore> ข่าวฟุตบอล> ข่าวฮอต> อังเคล,โกเมส แมนยู

อังเคล โกเมส : หลุดเซฟโซนที่ "แมนยูฯ" พลิกผันซิวแชมป์ยูโร U-21 สู่การติดธงอังกฤษ ชุดใหญ่ครั้งแรก

อังเคล โกเมส : หลุดเซฟโซนที่ "แมนยูฯ" พลิกผันซิวแชมป์ยูโร U-21 สู่การติดธงอังกฤษ ชุดใหญ่ครั้งแรก
ย้อนกลับไปวันที่ 22 พฤษภาคม 2017 แข้งร่างเล็กนามว่า อังเคล โกเมส เริ่มต้นเส้นทางนักฟุตบอลในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด ตั้งแต่ยังมีอายุเพียงแค่ 5 ขวบ สร้างสถิติเป็นผู้เล่นที่ลงสนามด้วยอายุน้อยสุดที่ลงเล่นให้ "ปิศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ใน พรีเมียร์ลีก นัดส่งท้ายของฤดูกาล ด้วยวัยเพียง 16 ปี 263 วันเท่านั้น หลังถูกส่งลงสนามมาแทน เวย์น รูนีย์ ในช่วงท้ายเกมนาทีที่ 88

จากการลงสนามครั้งนั้น ชื่อของ อังเคล โกเมส เริ่มถูกจับจ้องจากบรรดาสื่อและแฟนบอล และด้วยความที่ตัวเขา ยังเป็นญาติผู้น้องของ นานี อดีตปีกความเร็วสูงของทีมชาวโปรตุเกส อีกด้วย และด้วยดีกรี กัปตันทีมชาติอังกฤษ รุ่นอายุไม่เกิน 16, 17 และ 18 ปี ตามลำดับ ทำให้ได้รับการคาดหมายว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญของสโมสรและทีมชาติในอนาคต โดยเฉพาะในนามทีมชาติ ที่เชื่อกันว่าตัวเขาจะก้าวขึ้นมาประสบความสำเร็จร่วมกับ ฟิล โฟเดน เลยทีเดียว

จากชื่อของเขาในตอนนั้นที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างมาก ทำให้ความคาดหวังกลายเป็นความกดดัน สุดท้ายก็ไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่คิดเอาไว้ ก่อนจะลงสนามให้ทีมชุดใหญ่ รวม 10 นัดทุกรายการ ก่อนจะตัดสินใจที่ค่อนข้างช็อกความรู้สึกบางคน ด้วยการอำลาทีมไป หลังขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ได้ 3 ปี โดยให้เหตุผลว่า ขอทำตามเสียงของหัวใจ เพราะถ้าอยู่ต่อก็คงไม่มีโอกาสลงสนามมากนัก แม้ลึกๆ แล้วจะต้องการอยู่กับทีมต่อไปก็ตามที โดยทิ้งท้ายด้วยว่าเขาจะส่งกำลังใจให้ทีมนี้ตลอดไป

ลีลล์ ทีมใน ลีก เอิง ฝรั่งเศส คือเส้นทางต่อไปที่ อังเคล โกเมซ จะเลือกเดินบนถนนเส้นทางลูกหนัง โดยปีแรกเขาถูกส่งต้นสังกัดใหม่ส่งตัวไปให้กับ โบอาวิสตา ใน ลีกโปรตุเกส 1 ฤดูกาล ซึ่งทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยการยิงไป 6 ประตู 6 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 32 นัด ก่อนที่จะเป็นใบเบิกทางกลับคืนสู่ต้นสังกัดที่แท้จริง พร้อมพัฒนาตัวเองขึ้นมาเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญของทีม จนถึงตอนนี้ ยิงไปแล้ว 8 ประตู 18 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 118 นัด (อัปเดตถึง 5 ก.ย. 2024)

ที่ ลีลล์ คนที่มีส่วนสำคัญของเขานั่นคือ เปาโล ฟอนเซกา กุนซือของทีมที่ปรับการยืนตำแหน่งใหม่จากตัวที่อยู่ตำแหน่งเบอร์ 8 ที่ทำหน้าที่เป็นหน้าต่ำ หรือ เพลย์เมกเกอร์ หลังกองหน้า ถอยลงมายืนในตำแหน่ง เพลย์เมกเกอร์ ตัวต่ำที่คอยครองบอลอยู่หรือ ตำแหน่งหมายเลข 6 ที่ยืนอยู่หน้าแนวรับทั้งสี่คน ซึ่งทาง เปาโล ฟอนเซกา เรียกร้องจาก อังเคล โกเมส หลายอย่างมาก แต่ในขณะเดียวกัน ตัวก็ใส่ใจนักเตะรายนี้มากๆ เช่นกัน โดยพูดคุยกับโกเมสเป็นภาษาโปรตุเกสและอังกฤษ ซึ่งสาเหตุที่เขาทำแบบนี้ อังเคล โกเมส เพราะมองว่าเป็นผู้เล่นที่ฉลาดที่สุดในทีม

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ อังเคล โกเมส เจอจุดเปลี่ยนจนเส้นทางลูกหนังที่เคยเกือบหลับ แต่กลับมาได้นั่น "มายด์เซ็ต" หรือทัศนคติที่ดี ที่พร้อมจะปรับตัวตามที่ผู้เป็นนายต้องการ ไม่มองว่าการต้องขยับจากการเล่นเกมรุกเป็นหลักขยับลงมาเป็นเน้นแต่เกมรับเป็นเรื่องที่น่าเบื่อ เหมือนกับที่ มาร์คัส แรชฟอร์ด อดีตเพื่อนร่วมทีมของเขา

อังเคล โกเมส บอกว่า "ผมสนุกกับมันมากกว่าร้อยเปอร์เซ็นต์ ลึกๆ แล้ว ผมเล่นตำแหน่งหมายเลข 10 มาโดยตลอด โดยมีผู้เล่นอย่าง ชาบี เอร์นานเดซ, อันเดรส อิเนียสตา, พอล สโคลส์, อันเดรีย ปิร์โล ที่ผมชื่นชมพวกเขามาตั้งแต่เด็ก และด้วยความที่ผมเคยเล่นตำแหน่งสูง ผมจึงรู้ว่าต้องทำอย่างไรเมื่อต้องเล่นตำแหน่งต่ำ ผมสามารถกระจายบอลและช่วยสร้างทีม ซึ่งผมชอบมากจริงๆ"

"มันตลกดี เพราะผมคุยกับ มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่ เซนต์ จอร์จส์ปาร์ค ในเดือน มิถุนายน 2023 และเมื่อพวกเรายังเด็กกว่านี้ เชื่อหรือไม่ว่าเขาเล่นตำแหน่งหมายเลข 6 ตอนที่เขายังเด็ก คุณคงไม่คาดหวังให้เขาไปเล่นตรงนั้นหรอก ผมจำได้ว่าตอนนั้นมันอยู่ราวๆ รุ่นอายุต่ำกว่า 15 ปีหรือ 16 ปีนี่แหละ เขาเล่นตำแหน่งนี้ 2-3 เกม ก่อนย้ายกลับมาเล่นในตำแหน่งเดิมของเขา"

"พวกเราคุยกันถึงเรื่องนั้น และเขาก็พูดว่า 'คุณไม่คิดว่ามันน่าเบื่อเหรอ? ถ้านายเล่นตำแหน่งนี้นายจะไม่สามารถโจมตีคู่แข่งได้เลย' ผมจึงบอกกลับไปว่า ไม่หรอก แต่ถ้าผมมีความเร็ว และมีคุณสมบัติเหมือนนาย ผมคงจะพบว่ามันน่าเบื่อมันก็ได้นะ"

อีกอย่างที่สะท้อนให้เห็นว่า อังเคล โกเมส เหมาะสมกับตำแหน่ง เพลย์เมกเกอร์ตัวต่ำในตอนนี้อย่างมากเป็นเพราะว่า ครั้งหนึ่ง คริสเตียโน โรนัลโด เคยแนะนำเขาตอนเด็กว่า "ระหว่างการฝึกซ้อมนายต้องพยายามทำประตู  แต่เขารู้สึกว่าชอบ แอสซิสต์มากกว่าการทำประตู ยิ่งตอกย้ำความเหมาะสมของตำแหน่งปัจจุบันเข้าไปใหญ่

แต่ อังเคล โกเมส เผยอีกมุมมองที่ตำแหน่งการเล่นของเขาไม่ได้โดดเด่นเหมือนตัวรุกว่า "มันยากที่จะอธิบายกับคนดูทางบ้านว่างานของผมคือแบบนี้ บางคนจะรู้ดีว่าผมเล่นได้ดีแค่ไหน แต่หลายคนไม่รู้เพราะคิดว่าผมต้องทำประตู หรือ แอสซิสต์ มากกว่า เมื่อผมเล่นแนวลึกขึ้น การช่วยทีมทำประตู หรือ แอสซิสต์ ไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุด หากเราชนะและผมเล่นได้ดี นั่นก็เป็นเรื่องแล้วสำหรับผม"

จนมาถึงเมื่อปีก่อน ถือว่าเป็นปีน่าจดจำของ อังเคล โกเมส ที่ตัวเขาเป็นกำลังสำคัญร่วมกับ เคอร์ติส โจนส์, โคล พาลเมอร์, แอนโธนี กอร์ดอน ตลอดจน มอร์แกน กิบบ์ส-ไวท์ ในการพา "สิงโตคำราม" ทีมชาติอังกฤษ รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี ภายใต้การนำทีม ลี คาร์สลีย์ คว้าแชมป์ฟุตบอล ยูโร ไปครองได้อย่างยิ่งใหญ่ โดยที่ตลอดทัวร์นาเมนต์ ไม่เสียประตูแม้แต่ลูกเดียว นั่นทำให้ชื่อของ อังเคล โกเมส เริ่มกลับมาอยู่ในความสนใจของแฟนๆ อีกครั้ง

และแล้วอีกหนึ่งก้าวย่างที่สำคัญของ อังเคล โกเมส นั่นคือ ตัวเขามีชื่อติด ทีมชาติอังกฤษ ชุดใหญ่ เป็นครั้งแรก จากการที่ ลี คาร์สลีย์ นายใหญ่ ทีมชาติอังกฤษ ชุด ยู-21 ขยับมานั่งแท่นแม่ทัพทีมชุดใหญ่แทน แกเรธ เซาธ์เกต ตัดสินใจเรียกตัว อังเคล โกเมส มาติดทีมครั้งนี้ด้วย ในเกมที่จะพบกับ ไอร์แลนด์ และ ฟินแลนด์ ของศึก ฟุตบอล เนชันส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอฟ วันที่ 7 และ 11 กันยายนนี้

นี่คือโอกาสครั้งสำคัญสำหรับ อังเคล โกเมส ในการยกระดับขึ้นมาอีกขั้น ว่าตัวเขาเป็นนักเตะที่มีคุณดีพอ ที่จะเป็นนักเตะระดับแถวหน้า และเพื่อเป็นการสะท้อนว่า การตัดสินใจเลือกหันหลังให้กับ ยอดทีมสีแดงแห่งเมืองแมนเชสเตอร์ ที่ตัวเขาอยู่ 5 ขวบ นั้นคือการตัดสินใจที่ถูกต้องที่สุดในชีวิตเส้นทางค้าแข้ง

*ขอบคุณแหล่งข่าวจากthairath.co.th
Copyright © 2024 Powered By Thscore All Rights Reserved.