​เยอร์เก้น คล็อปป์: ผมคิดถึงเกมวันอาทิตย์มากกว่านัดชิงฯในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า

หลังจากพาลิเวอร์พูลเปิดบ้านเอาชนะท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ 4-0 ในศึกคาราบาว คัพ รอบรองชนะเลิศ นัดที่สอง รวมผลสองนัดลิเวอร์พูลชนะ 4-1 ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ เยอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน

ความรู้สึกหลังจากพาลิเวอร์พูลเข้าชิงชนะเลิศเป็นครั้งแรก

ดีใจมาก! แต่ถ้าคุณรู้จักผมดี คุณจะรู้ว่าตอนนี้ผมคิดถึงเกมวันอาทิตย์มากกว่านัดชิงชนะเลิศในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า สิ่งที่ผมพอใจที่สุดคือฟอร์มการเล่นของทีมในวันนี้ การเข้าชิงชนะเลิศมีความหมายอย่างมากสำหรับทุกสโมสร แม้แต่กับสโมสรอย่างเรา สโมสรนี้เข้าชิงชนะเลิศบ่อยครั้ง แต่นั่นไม่ได้ทำให้เราหยุดพยายาม เรายังคงทำงานอย่างหนักทุกวันเพื่อพัฒนานักเตะ ซึ่งตัวนักเตะเองก็ต้องการพัฒนาตัวเองอยู่แล้ว และการได้เข้าร่วมแข่งขันในนัดชิงชนะเลิศคือหนึ่งในเป้าหมายของเรา เรารู้ว่านัดชิงชนะเลิศจะยากลำบากแค่ไหน เพราะเราเคยเจอกับนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด มาแล้ว และพวกเขาก็เล่นได้ดีมากเมื่อวานนี้ อย่างไรก็ตาม ยังมีเกมอีกมากที่ต้องเล่นก่อนถึงนัดชิงชนะเลิศ นั่นคือสิ่งที่เราควรโฟกัสในตอนนี้

ความประทับใจในเกมรับที่แข็งแกร่งของลิเวอร์พูล

ประทับใจมาก ผมไม่ได้พูดเกินจริง สาเหตุหนึ่งที่สเปอร์สเสียประตู อาจเป็นเพราะพวกเขามีนักเตะบาดเจ็บเยอะ แต่พวกเขาก็ยังสามารถสร้างโอกาสทำประตูได้มากมายเสมอ การที่เราเพรสซิ่งอย่างหนักจนพวกเขายิงเข้ากรอบครั้งแรกในนาทีที่ 80 (ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ได้นับเป็นการยิงเข้ากรอบ) ไม่ได้บ่งบอกถึงฟอร์มการเล่นของสเปอร์ส แต่แสดงให้เห็นถึงการเพรสซิ่งที่ยอดเยี่ยมของเรา ผมประทับใจมากที่เราสามารถจำกัดโอกาสของทีมที่สร้างสรรค์โอกาสได้ดีขนาดนี้ จนพวกเขายิงเข้ากรอบได้เพียงครั้งเดียว นี่คือความสำเร็จที่ยอดเยี่ยม

เฟอร์จิล ฟาน ไดจ์ก เรียกร้องให้ทีมรีบเขี่ยบอลหลังจากโคดี้ กักโป ทำประตูแรกได้

ผมสังเกตเห็นเช่นกัน ช่วงเวลานั้นแสดงให้เห็นถึงทัศนคติของเราตลอดทั้งเกม เกมนี้เป็นเกมที่เข้มข้น นักเตะพร้อมแล้ว แฟนๆ พร้อมแล้ว เราทุกคนต้องการเพียงสิ่งเดียว นั่นคือการเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ เราแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นนั้นตั้งแต่วินาทีแรกจนถึงวินาทีสุดท้าย และช่วงเวลานั้นก็สะท้อนให้เห็นถึงสิ่งนั้นได้เป็นอย่างดี

มุมมองเกี่ยวกับการแข่งขันฟุตบอลถ้วยในช่วงแรกที่เข้ามาคุมทีม

บ่อยครั้งที่นักเตะที่ไม่ได้ลงเล่นเป็นประจำจะได้โอกาสลงเล่นในเกมเหล่านี้ ผมคิดว่านี่เป็นสิ่งสำคัญสำหรับเรา เพราะเมื่อใดก็ตามที่เราต้องการนักเตะเหล่านี้ พวกเขาจะพร้อมลงสนามเสมอ ผมคิดว่าถ้าคุณมาที่ประเทศนี้ คุณจะรู้ประวัติศาสตร์ของเอฟเอ คัพ และคาราบาว คัพ ผมรู้ และผมคิดว่าผมพูดถูก เอฟเอ คัพ มีชื่อเสียงมากกว่าคาราบาว คัพ เล็กน้อย แต่อย่างไรก็ตาม มันคือฟุตบอลถ้วย มันคือถ้วยรางวัลที่ควรค่าแก่การคว้ามาครอง เราคว้าแชมป์คาราบาว คัพ เมื่อฤดูกาลที่แล้ว ผมคิดว่าหากคุณคว้าแชมป์ได้เมื่อฤดูกาลที่แล้ว ฤดูกาลใหม่คุณก็ควรที่จะท้าทายตัวเองเพื่อคว้าแชมป์อีกครั้ง

กักโป ยิงไปแล้ว 16 ประตูในฤดูกาลนี้ เทียบเท่ากับจำนวนประตูที่เขายิงได้ตลอดทั้งฤดูกาล 2023/24

ผมไม่รู้เลย (ว่าเขาจะยิงได้กี่ประตูในฤดูกาลนี้) และผมก็ไม่ได้สนใจจำนวนประตูของนักเตะเป็นพิเศษ ผมรู้ว่าตราบใดที่พวกเขายังทำงานหนักแบบนี้ และสามารถขึ้นเกมจากแดนหลังได้สำเร็จแบบนี้ ด้วยคุณภาพของนักเตะในทีม เราจะทำประตูได้เสมอ แต่ประตูเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ อย่างประตูที่สาม คอนเนอร์ (แบรดลีย์) ในฐานะแบ็ค วิ่งขึ้นลงทั่วสนาม และสุดท้ายก็แอสซิสต์ให้กับ โดมินิค (โซบอสซ์ไล) ความพยายามของเขาสำคัญพอๆ กับฟอร์มการเล่นของผู้ทำประตู

ผมคิดว่าเป็นเคอร์ติส (โจนส์) ตอนนั้น โมฮาเหม็ด (ซาลาห์) เปิดบอลเข้ามา เขาเติมเกมรุกขึ้นไป ดังนั้นแบ็คฝั่งตรงข้ามจึงลังเลเล็กน้อย ลูกบอลจึงมาตกที่เท้าของโคดี้ (กักโป) ไม่ว่าจะเป็นโคดี้, ลูโช่ (หลุยส์ ดิอาซ), ดิโอโก้ (โชต้า), ดาร์วิน (นูเญซ), โมฮาเหม็ด หรือ เฟเดริโก้ (เคียซ่า) พวกเขาทุกคนสามารถทำประตูได้ แต่เราต้องทำให้แน่ใจว่าพวกเขาอยู่ในตำแหน่งที่สามารถทำประตูได้บ่อยๆ ดังนั้น นักเตะต้องวิ่งหาพื้นที่ และพวกเขาก็ทำแบบนั้น โคดี้ ทำผลงานได้ดีมากในฤดูกาลนี้ จริงๆ แล้วเขาทำผลงานได้ดีในช่วงครึ่งหลังของฤดูกาลที่แล้ว และเขาก็ทำผลงานได้ดีกับทีมชาติเนเธอร์แลนด์ในช่วงยูโร ดังนั้นนี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เขาเคยทำผลงานได้ดีมาก่อน

วิธีการและเหตุผลที่ทีมแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ตลอดฤดูกาล

ในมุมมองของผม มีสองเหตุผลที่ทำให้เราแข็งแกร่งขึ้น ประการแรก ยิ่งนักเตะเล่นด้วยกันมากเท่าไหร่ พวกเขาก็จะยิ่งเข้าใจกันมากขึ้นเท่านั้น ตัวอย่างเช่น ครั้งแรกที่ผมบอกพวกเขาว่าจะขึ้นเกมจากแดนหลังอย่างไรเมื่อต้องเผชิญกับการเพรสซิ่งของหมายเลข 7, 9 และ 11 ของฝ่ายตรงข้าม พวกเขาอาจจะแค่ตอบว่า "โอเค ควรทำแบบนั้น" แต่ยิ่งเจอสถานการณ์แบบนี้บ่อยเท่าไหร่ พวกเขาก็จะยิ่งทำได้อย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งมันช่วยได้มาก ยิ่งเล่นมาก ยิ่งประชุมมาก ยิ่งซ้อมมาก พวกเขาก็จะยิ่งรู้ว่าเราคาดหวังอะไรจากพวกเขา และพวกเขาคาดหวังอะไรจากกันและกัน ประการที่สอง ผมเชื่อว่ายิ่งเล่นมาก นักเตะก็จะยิ่งแข็งแกร่งขึ้น สภาพร่างกายจะดีขึ้น บางคนคิดว่าการเล่นมากเกินไปจะทำให้นักเตะเหนื่อยล้า แต่ตราบใดที่จัดการได้อย่างเหมาะสม ผมคิดว่านักเตะจะแข็งแกร่งขึ้นจากการเล่นหลายๆ เกม ไม่ใช่อ่อนล้าลง